นักเรียนยกพวกฟันอริปางตาย ตำรวจสอบพบจีบสาวคนเดียวกัน

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามของโรงเรียนย่าน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับภาพขณะวัยรุ่นเยาวชนชายคนหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาว ยืนสูบบุหรี่ที่หน้าร้าน ก่อนจะทำทีเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อเพื่อรอจังหวะที่กลุ่มเพื่อน ๆ นักเรียน ม.6 โรงเรียนเดียวกันมาสมทบ

จากนั้นภาพวงจรปิดอีกมุมข้างรั้วด้านหลังของโรงเรียน จับภาพได้ขณะกลุ่มนักเรียน ม.6 ไม่ต่ำกว่า 10 คน พากันเดินออกจากโรงเรียน พร้อมกับอาวุธมีด มุ่งตรงไปยังหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะปรี่เข้าไปตะรุมบอนอย่างบ้าคลั่ง โดยมีภาพวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อจับภาพได้อย่างชัดเจน ท่ามกลางสายตาประชาชน และผู้ที่ขับรถผ่านทางจนต้องจอดรอให้เหตุการณ์สงบจึงจะขับรถไปต่อได้

ทั้งนี้ เหตุการณดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเลิกเรียนของวันที่ 20 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นเยาวชนฝ่าย ม.3 ถูกอาวุธมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ลำตัว อาการสาหัส ส่วนอีกรายเป็นเยาวชนฝ่าย ม.6 ถูกมีดฟันเข้าที่แขน เย็บกว่า 40 เข็ม หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามเยาวชนมาดำเนินคดี

ล่าสุดวันที่ 25 ก.ค. 65 ตำรวจ สภ.บางพลี นำโดย พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน เชิญตัว 2 เยาวชน อายุ 15 ปี และผู้ปกครองมาสอบปากคำ และแจ้งขั้นตอนกระบวนการดำเนินการตามกฎหมาย โดยจากการสอบถามสาเหตุทราบว่า มาจากเรื่องแย้งกันจีบนักเรียนหญิงในโรงเรียนเดียวกัน

พ.ต.อ.วิโรจน์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นวันที่ 20 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำ และดำเนินคดี จากการพูดคุยต่อหน้าผู้ปกครองของเยาวชน ทราบว่าหนึ่งในกลุ่มของทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้วครั้งหนึ่ง สาเหตุมาจากแย้งกับจีบผู้หญิง กระทั่งล่าสุดในวันเกิดเหตุ ทั้งคู่ได้มีการนัดหมายเจรจากันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างพาเพื่อนร่วมชั้นด้วยมา โดยมีอาวุธทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อเจอหน้ากันก็เข้ารุมทำร้ายร่างกายกันตามภาพปรากฏในวงจรปิด

ขณะนี้ มีบางส่วนที่สามารถติดตามตัวมาได้แล้ว พร้อมกับผู้ปกครอง ซึ่งผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 คน โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่ายในข้อหาร่วมกันการมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้นจะต้องสอบขยายผลเพิ่มเติมว่า ผู้ใดที่ใช้อาวุธในการก่อเหตุ จะต้องถูกพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งโทษหนักสุดอาจจะโดนข้อหาเข้าข่ายพยามฆ่าก็เป็นได้

ทั้งนี้ ตนจึงอยากฝากเตือนเยาวชน นักเรียน ให้เลิกพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง ซึ่งนอกจากจะหมดอนาคตแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่หรือปกครอง ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายของเยาวชนอีกด้วย โดยหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลติดตามตัวเยาวชนที่เหลือมาดำเนินคดี ส่วนเยาวชนที่ตามตัวมาได้จะได้นัดสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ผู้ปกครองของหนึ่งในเยาวชนที่ร่วมกันก่อเหตุ ระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่องว่าหลานชายไปก่อเหตุดังกล่าว ที่ผ่านมาจะคอยไปรับไปส่งตลอด กระทั่งมีตำรวจตามไปที่บ้านจึงทราบเรื่อง ตนยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่รู้จะทำเช่นไร ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการของกฎหมาย เพราะตนเคยเตือนเคยห้ามแล้ว แต่สุดท้ายก็บอกได้แค่คำพูด แต่การกระทำเป็นที่ตัวของเขาเอง