หญิงวัย 70 ปีเก็บข่าข้างทาง ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์เรียกค่าเสียหาย 5 พันบาท

เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part3 นำเรื่องราวของคุณยายวัย 70 ปี ชาวสกลนคร มาโพสต์ไว้ ระบุว่า "ยายเก็บข่าข้างทางเพื่อเอาไปแกง กลับถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือยายด้วย กม.คือ กม.แต่ถ้านิติศาสตร์มันควบคู่ไปกับรัฐศาสตร์ได้มันคงจะดีมาก"


นางฉวีวรรณ อายุ 70 ปี ชาว ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ภัทรดร จันทบุตร พนักงานสอบสวน สภ.พังโคน ตามหมายเรียก หลังตกเป็นผู้ต้องหา ในข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป


หลังจากนางฉวีวรรณ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาบริเวณที่เกิดเหตุ และได้เข้าข่ายลักข่าในที่ดินที่มีโฉนด มีนางนัดดา อายุ 64 ปี เป็นเจ้าของ โดยนางนัดดา ได้มาพบคุณยาย ขณะทำการลักข่าอยู่ และได้มีการพูดคุยทะเลาะกัน แล้วคุณยายได้เอาข่าที่เก็บได้ขึ้นรถหลบหนีไป


ล่าสุดนางฉวีวรรณ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหายืนยันว่า ตนเองเก็บข่าในที่ดินสาธารณะ ไม่ใช่ในพื้นที่ของนางนัดดา โดยถอนข่าจะมากินกับน้ำพริก 1 กำ ซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าไปเก็บในที่ดินคู่กรณี เพราะในที่ดินสาธารณะก็มีข่าอยู่เต็มไปหมด ตนจึงได้ปฏิเสธไป ในขณะที่เพื่อนบ้านนับสิบออกมายืนยันว่านางฉวีวรรณ เป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร ชอบช่วยเหลือสังคม ถ้าจะมาเรียกร้องค่าเสียหายคงไม่มีให้ แต่จะขอต่อสู้ตามกระบวนการในชั้นศาลต่อไป และเปรยกับคนใกล้ชิดว่าอยากฆ่าตัวตาย


พ.ต.อ.ภิญโญ สุทธิสาร ผกก.สภ.พังโคน ได้เรียกคู่กรณี ทั้ง 2 มาไกล่เกลี่ย เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีเล็กน้อย โดยมี ผญบ.หมู่ 10 ต.พังโคนมาเป็นพยาน ซึ่งเคยมีการเรียกคู่กรณีมาตกลงกันแต่ปรากฏว่าไม่มา ผกก.พังโคน ได้พูดไกล่เกลี่ยนานกว่า 1 ชม แต่ไม่เป็นผล ฝ่ายผู้กล่าวหาก็ยังยืนยันจะเอาเงิน 5 พันบาท ฝ่ายผู้ต้องหายืนยันไม่มีให้ สรุปทางตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกระบวนการ แต่หากใครมีพยานหลักฐานอ้างอิงอะไรก็ให้นำมา ยินดีจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย