‘แพทย์ชนบท’ ยัน 'ยาโควิด' ขาดแคลนหนัก รพ.ต้องยืมกันวุ่น - สธ.ชี้ไม่จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัสทุกราย

ครม.อนุมัติงบกว่า 3.9 พันล้านบาทซื้อยารักษาโควิด ด้าน ‘หมอชนบท’ ซัด‘ยาโควิด’ ขาดแคลนหนัก รพ.ต้องหยิบยืมกันพัลวัน ขณะที่ สธ.แจงผู้ติดเชื้อ ไม่จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัสทุกราย  


ที่ประชุม ครม. วานนี้ ( 18 ก.ค.65 ) มีมติเห็นชอบโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19  กรอบวงเงิน 3,995.2708 ล้านบาท  ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน (ก.ค. -ก.ย. 2565)  แบ่งเป็นสำหรับซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์  (ของใหม่) ได้แก่  

Favipiravia/Molnupiravia  เฉลี่ย 27 ล้านเม็ดต่อเดือน (จำนวน 1,296.00  ล้านบาท) และ  Remdesivir จำนวน 57,000 vialต่อเดือน (จำนวน 21.96 ล้านบาท)  วงเงินรวม 1,317.96 ล้านบาท 

รวมทั้งเป็นการแบ่งค้างชำระ สำหรับ Favipiravia และ Molnupiravia  จำนวน 165 ล้านเม็ด (จำนวน 2,653.81 ล้านบาท) และค่าชุดตรวจ ATK จำนวน 1 ล้านชุด  (จำนวน  23.50 ล้านบาท) ของเดือน มี.ค.- มิ.ย. 65 รวมวงเงิน 2,677.31 ล้านบาท

--------------------------------------------------------------

ขณะที่ "ชมรมแพทย์ชนบท" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แม้องค์การเภสัชจะบอกว่าฟาวิมีพอ แต่ความจริงยังขาดแคลน ฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ขาดแคลนอย่างหนัก ไลน์โรงพยาบาลร้อนฉ่า หยิบยืมฟาวิกันพัลวัน คนหนึ่งต้องใช้ฟาวิอย่างต่ำ 50 เม็ด หรือถ้าเป็นโมลนูพิราเวียร์ก็คนละอย่างต่ำ 40 เม็ด โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง เหลือฟาวิ 2,477 เม็ด ใช้ได้เพียง 49 ราย โดยต้องอยู่ให้ถึงอย่างน้อย 22 กรกฎาคม 65 หรืออีก 5 วันของจึงจะมา แปลว่าใช้ได้วันละไม่เกิน 10 คน

โรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดหนึ่งก็ได้จัดสรรโมลนูพิราเวียร์มาแก้ขัดช่วงฟาวิขาดแคลน ได้จัดสรรมาก่อนแห่งละ 120 เม็ด (ใช้ได้กับผู้ป่วย 3 คนเอง) ที่องค์การเภสัชกรรมบอกว่ามีส่งตลอดไม่ขาดแคลนนั้น เป็นเพียงการแถลงแถไปเรื่อยหรือเปล่า ถ้าส่งโรงพยาบาลต่างๆ จริงก็เอาหลักฐานมาดูหน่อยนะ สังคมจะได้เชื่อมั่น สาเหตุที่ยาขาดแคลนเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ สธ.หลอกตัวเองนั่นแหละ มีข้อสังเกตเหมือนกับว่าจะมีการเน้นควบคุมเลขไม่เน้นควบคุมโรคทุกครั้งเลยที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ฟาวิและโมลนูขาดแคลนหนักมาก ขอผู้ป่วยเข้าใจ แพทย์จำต้องจ่ายยาที่มีน้อยนิดให้กับคนที่จำเป็นที่สุดก่อนเท่านั้น

---------------------------------------------------------------------

ด้าน  นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเข้าถึงยารักษาโควิด 19 ว่า ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทุกราย โดยกรณีมีอาการเล็กน้อย สามารถใช้ยารักษาตามอาการ หรือใช้ฟ้าทะลายโจรได้ ส่วนกรณีมีอาการที่ต้องได้รับยาต้านไวรัส ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ แพกซ์โลวิด รวมถึงแอนติบอดี LAAB ที่จะเข้ามาในสัปดาห์หน้า จะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ตามแนวทางและข้อบ่งชี้ของกรมการแพทย์

--------------------------------------------------------------------

เมื่อวานนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมหารือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมบริหารจัดการสถานการณ์โควิด 19  โดยส่วนของการควบคุมโรค ทาง สธ.ยืนยันว่าได้คืนพื้นที่การดูแลให้ กทม. ดังนั้น การจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจึงขึ้นอยู่กับผู้บริหาร กทม.

พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่สนับสนุนยาโควิดให้กับกทม. ยืนยัน เตียงในพื้นที่ กทม.มีเพียงพอ เพราะผู้ป่วยหนักมีไม่มาก ซึ่งกทม.ได้รับวัคซีนเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ และรับเข็ม 3 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์  ทั้งนี้จะบริหารจัดการร่วมกันแบบไร้รอยต่อกับ สธ. โดยประสานผ่านศูนย์เอราวัณที่ดูแล 6 โซนหลัก ส่วนยา ของกทม.ทาง สธ.ได้สำรองให้ 7 วัน แต่อยากขอเพิ่มเป็น 10 วัน 

ขณะที่การจัดกิจกรรม ของกทม.ได้ปรับผ่อนคลายมาตรการบาลานซ์ให้ได้ ทั้งคุมเข้มและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหนังกลางแปลงและดนตรีในสวน พบว่าไม่มีคลัสเตอร์ใหญ่ แต่หากมีข้อมูลสุ่มเสี่ยงก็พร้อมงดจัดทันที 

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-BSk2qFLBf0