สังคม

ผู้ว่าฯกทม.ยันกระทรวงสาธารณสุข เชิญปลัด กทม.ร่วมประชุม ไม่ได้เชิญผู้ว่าฯกทม.

โดย onjira_n

18 ก.ค. 2565

103 views

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนเข้าประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครประจำสัปดาห์



ในประเด็นความชัดเจน กรณีกระทรวงสาธารณสุข เชิญผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วมประชุมเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โควิด19



นายชัชชาติ กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูล คือกระทรวงสาธารณสุขเชิญนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานครเข้าร่วมประชุม แต่เบื้องต้นปลัด กทม.มอบหมายให้แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานครเข้าร่วมประชุมแทน ข้อมูลที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้ข่าว ว่าเชิญตนเองเข้าร่วมประชุมยังไม่มี กำลังตรวจสอบว่ามีหรือไม่ ถ้าเชิญมาจริง มีเวลาว่างจะไปเข้าร่วมประชุม แต่ตอนนี้ยังไม่เห็น



สำหรับการประเมินผู้ติดเชื้อใน กทม. รวมทั้งผลตรวจ ATK ด้วย ตอนนี้ตัวเลขคงที่ อาจจะเพิ่มนิดหน่อย ไม่น่าเป็นห่วงอะไร สำหรับกลุ่มที่ติดเชื้อเยอะจะเป็นการติดในครอบครัว ที่ทำงาน ยังไม่เห็นคลัสเตอร์จากกิจกรรมที่ กทม.จัด แต่ กทม.เฝ้าระวังตลอด ทั้งการเร่งให้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์ โดยจะให้ศูนย์บริการสาธารณสุขของกทม. ขยายเวลา จากเดินวอร์คอินเฉพาะวันศุกร์ จะเพิ่มให้เข้ามาฉีกวัคซีนวันเสาร์ได้ด้วย ส่วนที่โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครสามารถเข้าได้ทุกวัน นอกจากนั้นจะให้ตรวจเชืงรุกมากขึ้น และจะมีการให้วัคซีนบูสเตอร์เชิงรุกในชุมชนมากขึ้น



ทั้งนี้ถ้าดูจำนวนผู้ติดเชื้อในกลุ่ม เขียว เหลือง แดง ยังถือว่าไม่มีปัญกา เพราะคนส่วนใหญ่มารับยาแล้วกลับบ้านได้ ที่ยังกังวลจะมีแค่กลุ่ม 608 เท่านั้น ดังนั้นตอนนี้ต้องกระตุ้นทุกคนว่า ต้อฝฉีดบูสเตอร์ ใส่หน้ากากอนามัยแม้อยู่ในบ้าน ถ้าพูดถึงกิจกรรมที่เสี่ยง มันมีหลายอันที่ไม่ได้อยู่กลางแจ้งก็ต้องระวังทั้งหมด ทั้งอยู่ในที่ทำงาน ในร้านอาหาร หรือเดินห้างก็ถือว่าเสี่ยงหมด ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่อย่าตื่นตระหนก แต่ถ้ากระทรวงสาธารณสุขมีมาตราการอะไรก็ยินดี มาพูดคุกันได้กันได้



เพราะที่ผ่านการจัดกิจกรรมของ กทม.ยังไม่มีคลัสเตอร์เลย ที่เกิดจากกิจกรรมกลางแจ้ง

เมื่อวานมีโอกาสไปเดินโรงพยาบาลสิรินธร ก็คุยกับคนที่ป่วย พบว่าก็ติดจากครอบครัว ติดมาจากโรงเรียน ไม่ได้มีติดมาจากกิจกรรมกลางแจ้ง

เพราะกิจกรรมกลางแจ้งก็แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ให้อยู่ห่างกัน

ส่วนตัวก็สอบถามผู้เกี่ยวข้องตลอด ก็ยังไม่มีอะไรน่ากังวลของการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ถ้ากระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลอะไร กทม.ก็ยินดีรับฟัง



แต่อย่าลืมว่า กทม.ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครในสังกัด กทม.มีเพียง

11% ที่เหลือเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นของโรงเรียนแพทย์ กทม.เป็นการดูแลแค่ระดับปฐมภูมิที่ลงในชุมชน

แต่เท่าที่คัยกับคนหน้างาน ยืนยันว่ายังไม่น่าเป็นห่วง คนติดอาจจะเยอะ แต่ไม่ได้เข้าไปครองเตียงในโรงพยาบาล ซึ่งตัวเลขที่ต้องดูคือตัวเลขการครองเตียง ดังนั้นจำเป็นต้องดูแลกลุ่ม 608

ให้ดี แต่ยันยันว่าเศรษฐกิจยังต้องเดินหน้า

การจะกลับมาล็อคดาวน์อาจจะไม่ได้ผล อาจจะไม่คุ้มกัน เพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาแล้ว การท่อวเที่ยวจะไปบังคับไม่ให้ออกจากบ้าน ก็เป็นเรื่องลำบาก ดังนั้นทุกคนต้องเตรียมตังเองให้พร้อม เราไม่ได้ประมาท เพราะติดตามสถานการณ์ตลอด ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องยา ต้องมีความพร้อม ทั้งฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ถ้าตรวจเจอก็ให้ยา แต่ตอนนี้ยานี้เรายังซื้อเองไม่ได้ แต่กทม.กับกระทรวงสาธารณสุขยังประสานงานกันอยู่ ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าเป็นไปได้ หากผ่าน อย.ให้ท้องถิ่นสามารถซื้อเองได้ ก็จะช่วยกันดู ท้องถิ่นซื้อเอง คล้ายกับวัคซีนที่ช่วงแรกต้องซื้อจากส่วนกลาง

ช่วงหลังท้องถิ่นก็สามารถซื้อเองได้ ถ้าทำให้ท้องถิ่นซื้อเองได้ ก็จะทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น เพราะสาธารณสุขต้องดูแลทั้งประเทศ แต่ท้องถิ่นอาจจะเข้าใจความต้องการในพื้นที่ได้ละเอียด



ด้านแพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจะเข้าร่วมประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ เนื่องจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข(EOC) ของประเทศ มีความเป็นห่วงกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะช่วงที่เป็นวันหยุดยาว คนที่ออกไปต่างจังหวัดและกลับเข้ามา อาจจะทำให้มีการแพร่ระบาดมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่า BA.4 และ BA.5 ที่กำลังระบาดมีจำนวสฝนเยอะขึ้นจริง แต่จาการดูจำนวนแล้ว ถือว่าสูงขึ้นในระดับใกล้จะถึงจุดพีคแล้ว และจะค่อยๆลดลง แต่พื้นที่ใน กทม.จะต่างจากต่างจังหวัด เพราะวัคซีนให้ได้เยอะ เข็ม 3 ได้มากกว่า ร้อยละ 80 แล้ว แต่ยังห่วงกลุ่ม 608 ที่บางคนติดเตียงอยู่บ้าน ในส่วนเรื่องยา วันก่อนกังวลเล็กน้อยเพราะมีผู้ใช้บริการเยอะ แต่วันนี้ได้รับยาเพิ่มขึ้นแล้ว การประชุมวันนี้จะขอความกรุณาจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ กทม.ทำงานได้เต็มที่ เพราะตอนนี้ตามระบบ กทม.ยังจัดหาเองไม่ได้ เพราะระบบยังไม่เรียบร้อย ตอนนี้ กทม.มีเคสผู้ป่วยเยอะ ก็มีความสุ่มเสี่ยง แต่ต้องยืนยันว่า กิจกรรมของ กทม.ที่จัด เป็นไปตามนโยบาย ของ ศบค.ใหญ่ ที่อยากให้มีการผ่อนคลอยมาตรการและกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจะเห็นว่ากิจกรรมที่จัดทำให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มขึ้น แต่เรายังเข้มมาตรการป้องกันโควิด และยังไม่พบจากกิจกรรมของ กทม. คลัสเตอร์ส่วนใหญ่ใน กทม.ที่พบ คือเกิดจากครอบครัว เกิดจากที่ทำงาน และพบคลัสเตอร์เล็กๆในโรงเรียน ต้องยอมรับว่าจะห้ามไม่ให้เกิดเลยยาก แต่ถ้าหาสมดุลระหว่างผู้ติดเชื้อและเศรษฐกิจไปได้ น่าจะยังพอไหว



จากนั้นผู้ว่า กทม.ย้ำว่า สัปดาห์หน้าจะมีการตรวจเชิงรุกในโรงเรียนเพิ่มขึ้นด้วย




คุณอาจสนใจ

Related News