สังคม

“ชัชชาติ” เร่งแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว จะชัดเจนใน 1 เดือน ตั้งเป้าลดค่าโดยสารให้คนเมือง

โดย paranee_s

2 มิ.ย. 2565

184 views

วันนี้ (2 มิ.ย. 2565) ที่ ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาถึง ในเวลา 04.00 น. เพื่อมาวิ่งออกกำลังกาย โดยนายชัชชาติระบุว่า เป็นการเปลี่ยนสถานที่วิ่งจากปกติวิ่งที่สวนลุมพินี วันนี้ออกมาวิ่งที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า วัดพระแก้ว และปากคลองตลาด


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วท่านผู้ว่าฯกทม. อาบน้ำที่ไหน ผู้ว่าฯตอบว่า มีห้องอาบน้ำเล็ก ๆ ที่สามารถอาบน้ำได้ แล้วก็ทำงานต่อเลย พร้อมอยากเชิญชวนคนมาวิ่งออกกำลังกาย เพราะอากาศดีและวิวสวยมาก


จากนั้นในเวลา 11.00 น. นายชัชชาติ ได้หารือร่วมกับผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม เกี่ยวกับประเด็นการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการต่อสัมปทาน เพื่อดูรายละเอียดสัญญาการเดินรถ การสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึงการนำสายสื่อสารลงดิน


นายชัชชาติ กล่าวภายหลังร่วมหารือกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1 เดือน ซึ่งการหารือกับกรุงเทพธนาคมวันนี้ ทำให้เห็นว่าสัญญาการเดินรถส่วนต่อขยาย ที่จะสิ้นสุดในปี 2585 ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สิน จึงต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าภาระหนี้สินเกิดจากอะไร และสัญญาได้รับการอนุมัติจากสภากทม.หรือไม่


ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาหนี้สิน มาเป็นตัวเร่งรัดการตัดสินใจระยะยาว แม้ว่าจะมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน หากมีความจำเป็น กทม.ยังมีข้อบัญญัติในการกู้เงินที่จะนำมาชำระหนี้สินได้ โดยเป็นข้อบัญญัติที่ต้องผ่านสภากทม.ก่อน และเป็นการกู้เงินจากรัฐ ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเอกชนกู้ ย้ำว่าต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อน


ส่วนการขยายสัญญาสัมปทานที่จะหมดในปี 2572 นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่ได้มีการหารือ เพราะยังมีส่วนที่เกี่ยวข้อง กับสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร (สจส.) และสภากทม. ต้องเข้ามาพูดคุยข้อมูล และทบทวนการต่ออายุสัญญา โดยให้สภากทม.ดูเนื้อหาอย่างละเอียดตามแนวทางปฏิบัติ เพราะสัญญาเดิมที่ค้างอยู่ในครม.ขณะนี้ เกิดขึ้นจากการพิจารณาของคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นโดยการใช้ ม.44


ทั้งนี้หากศึกษารายละเอียดเชื่อว่าจะมีจุดที่ทำให้สัญญาถูกลงได้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการใช้พรบ.ร่วมทุนเข้ามาแข่งขัน ส่วนจะทำราคาค่าโดยสารถูกลงจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะอยู่ในราคา 25 บาทนั้น นายชัชชาติระบุว่า เป็นเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำ และมีความเป็นไปได้ แต่ยอมรับว่าก็มีปัจจัยอื่นที่ควบคู่ไปด้วย เช่น โครงสร้างหนี้พื้นฐาน ที่จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงกำไรและขาดทุน


พร้อมมองว่าอีกหนึ่งแนวทางที่จะลดภาระหนี้สิน คืออาจจะเริ่มเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายทั้งสองส่วน เพราะปัจจุบันการให้บริการฟรีอาจจะไม่สมเหตุสมผล และส่งผลกระทบต่ออาชีพการให้บริการรถขนส่งสาธารณะที่จะขาดรายได้ ทั้งนี้ต้องดูความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นประชาชนและเอกชนด้วย


นายชัชชาติระบุต่อว่า หลังจากได้ข้อสรุปจะต้องรายงานต่อ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจะรับสรุปข้อมูล เพื่อเข้าหารือให้เร็วที่สุด และคงยังไม่เข้าไปรายงานที่ประชุมครม. พร้อมย้ำว่า สิ่งที่กทม.อยากทำมากที่สุด คือการเร่งคืนหนี้สินให้รัฐบาลให้โดยเร็วที่สุด และอยากขอให้กทม.มาดูแลเรื่องการเดินรถเอง เพราะถือเป็นสมบัติของเมือง


ส่วนกรณีหารือในประเด็นสายสื่อสารลงดินนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องรายได้และผู้เข้ามาดำเนินการ ที่มีสัญญาจ้าง 4 ฉบับ กรอบวงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นรูปแบบที่ไม่เจออะไรหน้างานจึงต้องเข้าไปศึกษารายละเอียดข้อมูล ถือเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นความก้าวหน้า และจะต้องไม่เป็นภาระของผู้บริโภค เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ


คุณอาจสนใจ

Related News