ชายวัย 26 ปีแค้น ถูกห้ามให้อาหารหมา ยิงคนงานศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดับ

เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเนิ้ตซิ้งโฮม ต.วัดประดู่ อ.เมือง จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พิสูจน์หลักฐาน 8 ตำรวจ ชุดสืบสวน และกู้ภัยสุราษฎร์ธานี ที่เกิดเหตุเป็นอาคารห้องแถวชั้นเดียว อยู่ด้านในสุด ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเนิ้ตซิ้งโฮม


ส่วนผู้บาดเจ็บเบื้องต้นเป็น ชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายพีระพล หรือแซน เหงี่ยมไพศาล ชาวจ.นครปฐม ลูกจ้างซ่อมบำรุงอุปกรณ์ภายในศูนย์ ถูกยิงเข้าที่ แขนซ้ายทะลุ ใต้ราวนมซ้าย กู้ชีพเร่งช่วยชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนนำส่งโรงบาลสุราษฎร์ธานี แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 9 มม.จำนวน 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบสวนนายจอม แรงงานต่างด้าวที่ทำก่อสร้างอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกำลังทำก่อสร้างอยู่บริเวณติดกัน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 -3 นัด และเห็นนาย พีระพล ล้มฟุบลงกับพื้น ขณะเดียวกันได้เห็นคนร้าย ซึ่งขับรถพุ่มพวงเข้ามาขายของกำลังเร่งขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปจากศูนย์ฯ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ศูนย์จะช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล


นางวาสนา วิชัยดิษฐ์ อายุ 56 ปี เจ้าของศูนย์ฯ กล่าวว่า นายพีระพล เป็นหลานของเพื่อนสนิท มาช่วยทำงานภายในศูนย์ฯ ได้ไม่นาน และไม่ทราบว่าเคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อนหรือไม่ ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว


ต่อมา เมื่อเวลา 13:20 น.วันเดียวกันที่จุดตรวจความมั่นคงทุ่งสวรรค์ อ.ละแม จ.ชุมพร ได้ สกัดรถผู้ต้องหา ก่อเหตุได้ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บนถนนสายเอเชีย 41 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร จนสามารถสกัดจับตัวได้ ทราบชื่อคือนายปรัชญา มาบุดดา อยู่ระหว่างการนำกลับไปยังจ.สุราษฎร์ธานี


และเมื่อเวลา 13:20 น. เจ้าหน้าที่ ตั้งจุดสกัดอ.ละแม จ.ชุมพร สามารถไล่ติดตามนายปรัชญา หรือน๊อต มาบุเดา อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุพร้อมรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีแดง ป้ายทะเบียนสุราษฎร์ธานี


นางนงค์เยาว์ มาบุดดา อายุ54 ปี แม่ของนายปรัชญา กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุนายปรัชญา ลูกชายได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และแจ้งว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ชายรายดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ได้นำอาหารไปให้สุนัขจรจัดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งได้ให้เป็นปกติทุกวันที่ไปขายของบริเวณดังกล่าว และได้เกิดมีปากเสียงกัน


ซึ่งผู้เสียชีวิตภายหลัง ได้ด่าทอ ต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบว่า นำอาหารมาให้หมาทำไม ซึ่งวันนี้ก็จะนำไปให้อีกครั้ง และเกิดเหตุดังกล่าว หลังเกิดเหตุจึงได้ขับรถยนต์คู่หมั้น เพื่อเดินทางไปตั้งหลักที่บ้านคู่หมั้นในกรุงเทพ และตั้งใจจะมอบตัวในวันพรุ่งนี้


โดยปกติแล้วบุตรชายเป็นคนจิตใจดี ขับขี่รถจักรยานยนต์ขายของ ก็จะให้อาหารสุนัขจรจัดทั่วไปตลอด ส่วนเรื่องเช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด


บรรยากาศที่สภ. เมืองสุราษฎร์ธานี ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุ นำโดยนางนงค์เยาว์ เมื่อเจอแม่และครอบครัวผู้เสียชีวิต ก็รีบยกมือไหว้ขอโทษ และกล่าวว่า เรื่องเช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอบุตรชายว่าอย่างไร แต่อยากขอโทษและแสดงความเสียใจ และยิ่งรู้ว่าผู้เสียชีวิตมีลูกยังเล็กยิ่งรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก