สังคม

เตรียมปลดล็อก 'กัญชา-กัญชง' ใช้ในครัวเรือน 9 มิ.ย.นี้ “อนุทิน” ยัน เพื่อการรักษาและดูแลสุขภาพ

โดย paranee_s

27 พ.ค. 2565

260 views

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ และ 8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งสริมการใช้กัญชา กัญชง ดูแลสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจและไม่ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม


นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง จากเริ่มแรกที่นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จากนั้นได้ต่อยอดมาเพิ่มมูลค่ากลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชาและกัญชง ออกสู่ตลาดอย่างหลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร และเครื่องสำอาง


ในวันที่ 9 มิถุนายน เป็นต้นไป ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 จะมีผลบังคับใช้ มีผลให้ควบคุมเฉพาะสารสกัดพืชกัญชาหรือกัญชง ที่มีสาร THC เกินร้อยละ 0.2 เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ส่งผลให้สามารถนำส่วนต่างๆ ของพืชกัญชา กัญชง มาพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง และสมุนไพรได้ ประชาชนสามารถปลูกกัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ในการรักษาและดูแลสุขภาพได้ง่าย ผ่านการจดแจ้ง ส่งผลให้ลดรายจ่ายด้านการรักษาและเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา กัญชง


ทั้งนี้นายอนุทิน เน้นย้ำว่าการปลดล็อกกัญชา กัญชงในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลัก 3 เรื่อง คือ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ Health and Medical, เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั้งในกลุ่มเครื่องสำอาง สมุนไพร และอาหาร ร่วมถึงส่งเสริมงานวิจัย นวัตกรรม และ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพตนเอง


ภายหลังการร่วมลงนาม นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนว่า ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน เป็นต้นไป ถ้าใช้ในครัวเรือนสามารถใช้ได้เลย แต่ต้องระวังค่า THC ต้องเกินร้อยละ 0.2 ถ้าเกินถือว่ามีความผิด ยังถือว่าเป็นยาเสพติดตามกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่ออนุญาตให้ใช้ในครัว ถ้ามีผู้อ้างว่าสูบเผื่อผ่อนคลาย รักษาโรคสามารถทำได้ใช้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่าสามารถทำได้ หากมีเพื่อนมาบ้านและสูบในบ้านก็ทำได้ เพราะอยู่ภายในบ้าน แต่ต้องเน้นย้ำว่าเป็นเรื่องของจิตสำนึก กระทรวงสาธารณสุขไม่เคยรณรงค์ให้สูบกัญชาเพื่อผ่อนคลาย แต่กระทรวงฯเน้นการใช้เพื่อเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ผู้ที่ใช้ต้องระวัง อย่าให้ค่า THC เกินร้อยละ 0.2 ถ้าเกิน 0.2 ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าตำรวจเจอ ก็สามารถจับหรือตรวจค้นได้


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องสูบขนาดไหน ถึงระบุได้ว่าเกิน หรือไม่เกินค่า THC ร้อยละ 0.2 นายอนุทิน ตอบว่า ไม่ทราบ เพราะตนเองไม่เคยสูบ


เช่นเดียวกับต่างชาติที่เข้ามาไทย ถ้าอยู่ในครัวเรือนที่มีการใช้สารกัญชา หรือส่วนต่างๆ ของกัญชา นักท่องเที่ยวต่างชาติก็สามารถใช้กัญชา กัญชงได้ตามกรอบกฎหมาย แต่การจะซื้อกลับไปต่างประเทศ ก็แล้วแต่ประเทศของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น ว่ามีกฎหมายเกี่ยวกัญชาอย่างไร แต่ถ้าเป็นประเทศไทย การบริโภคในชุมชน ตามกรอบกฎหมายสามารถทำได้ ไม่มีปัญหา


ส่วนข้อห่วงใยเกี่ยวกับกฎหมาย ที่เสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปนั้น ทางพรรคภูมิใจไทย ได้หารือกับวิปรัฐบาลแล้ว ขอให้ร่นระยะเวลาการพิจารณาในสภาให้เร็วขึ้น ช่วงรอยต่อที่รอกฎหมาย ไม่น่ามีปัญหา เพราะใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก อย. อยู่แล้ว แต่ในครัวเรือนสามารถใช้ได้เลย


นอกจากนั้น นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงประเด็นการระบาดของฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ว่าขณะนี้รัฐบาลดูแลเต็มที่ ตอนนี้ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เตรียมโค๊ด DNA ที่สามารถนำสารคัดหลั่งไปตรวจ และระบุได้ว่าเป็นฝีดาษลิงหรือไม่ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการระมัดระวังตนเอง ระวังอย่าไปสัมผัสใกล้ชิด โดยเฉพาะสารคัดหลั่งต่างๆ นอกจากนั้นการสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมืออย่างสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งจำเป็น


อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ใดที่เข้าข่ายติดโรค ก็มีกฎหมายควบคุมโรคสามารถสั่งกักตัวที่ที่มีความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาและยุโรป ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องกังวล กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังอยู่แล้ว และจากการพูดคุยกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ก็ยินดีสนับสนุนหากพบการระบาด


แต่ในไทยเอง เรามีวัคซีนที่มีลักษณะใกล้ชิดในการป้องกันฝีดาษลิงอยู่แล้ว ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังวิเคราะห์วิจัยเพิ่มเติม อาจจะพัฒนาเป็นวัคซีนหรือเป็นยารักษาโรคต่อไป เพราะองค์การเภสัชกรรมมีข้อมูลด้านนี้อยู่แล้ว ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันตัวเอง


สำหรับเรื่องการผ่อนปรนให้ถอดหน้ากากอนามัย นายอนุทินระบุว่า ถ้าถามกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังอยากแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ ต้องทำความเข้าใจว่าไม่มีกฎหมายที่ระบุว่าให้ใส่หรือไม่ใส่ แต่เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ซึ่งการจะให้ใส่หรือไม่นั้น เป็นสิทธิของเจ้าของสถานที่ว่าจะให้ใส่หรือไม่ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ กฎหมายไม่มีกำหนดไว้


คุณอาจสนใจ

Related News