สังคม

ไม่เข็ด! บุกรวบสาวแสบ สวมรอยเป็นหมอเถื่อน เพิ่งพ้นคุกยังทำอีก พบมี 13 คดีติดตัว

โดย thichaphat_d

27 พ.ค. 2565

152 views

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือสบส.ร่วมกับตำรวจบก.ปคบ.บุกจับกุม"น.ส.แนน" หลอกสวมรอยเป็นหมอเถื่อน เพิ่งพ้นคุก ไม่เข็ดยังกลับมาทำผิด มีคดีติดตัวถึง 13 คดี ตั้งแต่ปี 2556


วันที่ 26 พฤษภาคม 2565  ที่กองบังคับการปราบปราม นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่า  ตามที่กรม สบส.ได้รับการประสานจากตำรวจกองกำกับการ 4  กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) ในการติดตามจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) หรือรู้จักกันในชื่อ น.ส.แนน อายุ 30 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างเอกสารของแพทย์จริงไปสมัครงานตามคลินิกต่างๆ จนเกิดผลกระทบกับผู้รับบริการหลายราย แม้จะเคยถูกจับกุมมา

ก่อนหน้านี้ก็ไม่สำนึกกลับออกมากระทำผิดในรูปแบบเดิมอีก อันแสดงให้เห็นถึงการขาดความสำนึก และยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส.จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

จนในวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ก็สามารถจับกุมตัว  น.ส.แนน ได้ที่บ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน น.ส.แนน มีคดีติดตัวถึง 13 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดี ในการหลอกลวงเอกเอกสารของผู้อื่นไปทำธุรกรรม หรือนำเอกสารของแพทย์จริงไปสวมรอยประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามคลินิกต่างๆ

ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.แนน ก็เคยต้องโทษจำคุกไปแล้ว แต่เมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2564ก็ยังคงมีพฤติการณ์กระทำผิดซ้ำอีกเช่นเคย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (หมอเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับกับ น.ส.แนน ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนต่อไป

นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับบทลงโทษตามกฎหมาย ในกรณีที่พบหมอเถื่อนให้บริการในคลินิกนั้น นอกจากบทลงโทษตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กับหมอเถื่อนแล้ว ตัวผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ตามมาตรา 34 (1) ในฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล

มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจจะมีคำสั่งตามมาตรา 50 ให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว 30 วัน อีกด้วย จึงขอเน้นย้ำกับผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ให้เข้มงวดในการตรวจสอบประวัติ และเอกสารหลักฐานในการรับสมัครผู้ให้บริการ ซึ่งอาจจะต้องมีการตรวจสอบจากเอกสารฉบับจริงและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อยืนยันว่าผู้สมัครมิได้มีการแอบอ้างนำหลักฐานของบุคคลอื่นมาสมัครงาน


ประวัติคดีหมอเถื่อน (น.ส.แนน)

คดีที่ 1 ปี 2556     ถูกดำเนินคดีโดย สน.บางกรวย ข้อหา บุกรุกในเวลากลางคืน

คดีที่ 2 ปี 2556    ถูกดำเนินคดีโดย สำนักงานเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษข้อหา นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอัน เป็นเท็จ ฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชน

คดีที่ 3 ปี 2559     ถูกดำเนินคดีโดย สน.บางยี่เรือข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนฯ

คดีที่ 4 ปี 2559     ถูกดำเนินคดีโดย กก.4 บก.ปคบ. ข้อหา ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

คดีที่ 5 ปี 2560     ถูกดำเนินคดีโดย สน.พหลโยธิน ข้อหา ปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ ลักทรัพย์ฉ้อโกง

คดีที่ 6 ปี 2560     ถูกดำเนินคดีโดย สน.ห้วยขวาง ข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นฯ

คดีที่ 7 ปี 2560    ถูกดำเนินคดีโดย สน.ห้วยขวางข้อหา น าบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารฯ

คดีที่ 8 ปี 2560     ถูกดำเนินคดีโดย สน.ปทุมวัน ข้อหา ตัวการในข้อหาฉ้อโกง, ตัวการในข้อหาปลอมเอกสาร,ตัวการในข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร

คดีที่ 9 ปี 2560     ถูกดำเนินคดีโดย สน.ห้วยขวาง ข้อหา ตัวการในข้อหาใช้หรืออ้างเอกสารปลอม

คดีที่ 10 ปี 2564     ถูกดำเนินคดีโดย กก.4.บก.ปคบ. ข้อหา ตัวการในข้อหาท าให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น

คดีที่ 11 ปี 2564     ถูกดำเนินคดีโดย กก.4.บก.ปคบ. ข้อหา ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ว่าพร้อมที่จะประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

คดีที่ 12 ปี 2564     ถูกดำเนินคดีโดย สน.โชคชัย ข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

คดีที่ 13 ปี 2565     ถูกดำเนินคดีโดย กก.4.บก.ปคบ. ข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบอาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ,ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/rbRwiKrjqus

คุณอาจสนใจ

Related News