จากกันด้วยดี! “ทนายเดชา” ถอนตัวคดี “แตงโม” ยินดีหากให้กลับมาทำคดี แต่แม่ต้องพูดความจริง

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เปิดเผยหลังจากที่ขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความของคดีนี้ โดยระบุว่า มี 3 ประเด็นหลักที่ต้องขอถอนตัว คือ ความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นเพียงคดีประมาทฯ แต่แม่แตงโม เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม จึงจำเป็นต้องขอถอนตัว ประเด็นที่ 2 คือการแถลงข่าวเมื่อวาน ที่บอกว่าแม่แตงโมเป็นคนนำมือถือไปให้บังแจ๊ค และกรณีที่แม่แตงโม ต้องการให้ไปดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด แต่ไม่ทำคดีให้จึงทำให้แม่ไม่พอใจ


นายเดชา ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังเป็นทนายความให้กับคดีนี้อยู่ จนกว่าคดีจะถูกส่งฟ้องในชั้นศาล และการขอถอนตัวออกจากคดีไม่ได้โกรธกัน และจากกันด้วยดี แต่อยากขอฝากถึงแม่ของแตงโม ขอให้ระมัดระวังคนที่จะเข้ามาพบ เพื่อจะช่วยเหลือทางคดี เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือนั้น จะให้ความช่วยเหลือไปจนจบคดีหรือไม่ เพราะเชื่อว่าคดีนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่า 5 ปี แต่หากแม่แตงโมจะขอให้กลับมาช่วยเหลือทางด้านคดีนั้น ก็ยินดี แต่ขอดูเป็นประเด็นไป และจะขอให้แม่ไปสาบานในโบสถ์คริสต์ก่อนว่า หากให้กลับมาเป็นทนายให้จะต้องพูดความจริง


นายเดชา ยังกล่าวว่า การที่โทรศัพท์มือถือของแตงโมไปอยู่ที่บังแจ๊คนั้นถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากในโทรศัพท์ของแตงโมมีภาพลับที่เกี่ยวข้องกับนักธุรกิจ นักการเมือง และอีกหลายคนกว่า 30 ภาพ ที่เชื่อได้ว่าบังแจ๊คอาจจะนำไปหาผลประโยชน์แบล็คเมล์คนอื่นได้


แต่ยืนยันว่าการที่แม่แตงโม นำโทรศัพท์ไปให้บังแจ๊คนั้นไม่มีการหารือก่อน และไม่ทราบว่าเอาไปให้ใครจนกระทั่งแม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าโทรศัพท์อยู่กับทนาย จนสุดท้ายมายอมรับว่านำไปให้บังแจ๊ค


ส่วนความผิดที่แม่แตงโม นำโทรศัพท์ไปให้บุคคลอื่นมากระทำการละเมิดบุคคลอื่น แม่ก็จะต้องไปพบกับพนักงานสอบสวนถึงสาเหตุที่นำข้อมูลเหล่านี้ไปให้กระทำผิด แต่จะเข้าข่ายว่ามีความผิดฐานสนับสนุนผู้กระทำความผิดหรือไม่นั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา


นายเดชา ยังกล่าวว่า หลังจากขอถอนตัวออกจากการทำคดีแล้วก็รู้สึกโล่งใจ เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง แต่ยอมรับว่าได้รับค่าตอบแทนจากแม่แตงโมแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็จะยังคงทำหน้าที่ไปจนกว่าคดีความไปถึงชั้นศาล ส่วนกลุ่มบุคคลที่แม่แตงโมเชื่อถือ ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของแม่


อยากให้แม่นึกถึงก่อนหน้านี้ ที่มีนักการเมืองคนหนึ่งอยากจะสร้างศาลของแตงโมไว้เป็นที่กราบไหว้ที่ท่าน้ำพิบูลย์สงคราม  อยากให้แม่ระวังเอาไว้ เพราะหากกระแสของแตงโมเงียบหายไป ก็จะถูกทิ้งเอาไว้ไม่มีคนดูแล เหมือนที่แม่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้