ปลัดแจงดรามาขอค้นรถในรีสอร์ท ทำตามยุทธวิธี แต่กลับโวยวาย

วันที่ 23 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีมีคลิปภาพการโต้เถียงกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด(ปปส.)จังหวัดบุรีรัมย์กับประชาชน ที่บริเวณหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา



คลิปดังกล่าวโลกโซเชียล ต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก มีทั้งตำหนิฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่ บางกลุ่มตำหนิฝ่ายประชาชนว่า ถ้าไม่มีความผิดทำไมมีการขัดขวางเหมือนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น



สอบถาม น.ส.ฐิติมา เมืองจันทึก อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ หนึ่งใน 8 คน ที่จะถูก จนท.ตรวจค้นในวันเกิดเหตุ บอกว่า ตนและครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านเครื่องเสียง ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ



วันนั้นตั้งใจจะไปหาญาติที่จังหวัดสุพรรณบุรี เอารถไปด้วยกัน 2 คัน ไปทั้งหมด 8 คน ไปถึงบุรีรัมย์ เวลาประมาณ 22.00 น. จึงจอดพักที่รีสอร์ท เปิดห้องทั้งหมด 4 ห้อง



พอรุ่งเช้าจะเอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่องกับร้านเพื่อนในตัวเมืองบุรีรัมย์ ก่อนที่จะถึงร้านถ่ายน้ำมันเครื่อง ลูกชายได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า มีคนมาปิดทางเข้าออกรีสอร์ท พร้อมจะขอตรวจค้นคนที่เข้าพักทั้ง 8 คน ตนกับสามีจึงรีบขับรถย้อนออกมา ก่อนจะมีการโต้เถียงกันตามคลิป



น.ส.ฐิติมา บอกด้วยว่า พวกตนทำมาหากินสุจริต ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าเกินกว่าเหตุ รับไม่ได้กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาครอบครัวโดนค้นมาแล้ว 2 ครั้ง คือที่หน้าร้านของตนที่ จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ในครั้งนี้





ด้านนายทนนท์ เม็นไธสง ปลัดอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ฝ่ายความมั่นคง ได้ออกมาระบุ การขอตรวจค้นดังกล่าว เป็นยุทธวิธี หลังจากได้รับข้อมูลรายงานมาว่ามีรถต้องสงสัย ขนส่งยาเสพติด



จึงประสานทหาร ตำรวจ รวมฝ่ายปกครอง ติดตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าว แล้วส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอดทั้งคืน เพื่อทำการขอตรวจค้นในตอนกลางวัน เพื่อให้ง่ายและโปร่งใส



แต่คนกลุ่มนั้นไม่ยินยอมให้ตรวจค้น พร้อมต่อว่าเจ้าหน้าที่ ว่าไม่ได้แต่งชุดเจ้าหน้าที่ และไม่แสดงตัว ประการแรกยอมรับว่าไม่ได้แต่งชุดแบบเต็มยศ เพราะเป็นงานยาเสพติด เมื่อถูกถามหาบัตร ก็แสดงตัว



เจ้าหน้าที่ใช้เวลาการเจรจานานกว่า 30 นาที ทุกคนจึงยอมให้ตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็ต้องปล่อยไป ยืนยันทำตามกระบวนการและยุทธวิธี ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือข่มขู่ใดๆตามคลิป