สังคม

ครูหัวหน้างานช่วยเหลือนักเรียนฯ เปิดใจทั้งน้ำตา เหตุม.3 เสียชีวิต วอนขอความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย

โดย paranee_s

18 พ.ค. 2565

2.7K views

นางสาวจรรยา ชูเมฆ หัวหน้ากลุ่มงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ได้เปิดใจครั้งแรกกับผู้สื่อข่าว กรณีนักเรียนชั้น ม.3 ผูกคอตัวเองจนเสียชีวิต ว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้เตรียมการความช่วยเหลือนักเรียนคนดังกล่าวไว้พร้อมแล้ว ทำไมหนูจึงไม่ยืนมือให้ครู เหลืออีกนิดเดียวครูกำลังยื่นมือให้หนูจับแล้ว


อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานั้นระบบการดูแลนักเรียนเราเตรียมไว้อย่างมีระบบ มีหลักฐาน และครอบคลุมทุกปัญหาของเด็กแล้ว เรารู้ว่าตอนที่ปิดเทอมเด็กไปอยู่กับแม่ที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา พอจะเปิดเทอมครูปรึกษาชั้น บอกว่าเด็กอยากมาโรงเรียนแต่ไม่สามารถมาเรียนได้ในขณะนี้ ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาให้เด็กไปแล้ว แต่เราก็ไม่ทราบว่าตอนเด็กอยู่ใน จ.สงขลานั้นมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง


ในตอนเด็กอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง เราก็ได้รับทราบความเคลื่อนไหวของเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ชั้น ม.1-2 ซึ่งเรารู้ว่าเด็กมีผู้ปกครองที่เป็นญาติกันที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ควนขนุน และทางโรงเรียนก็ได้เตรียมตั้งรับเด็กคนนี้ไว้แล้วในชั้น ม.3 เมื่อวันแรกที่เขาไม่มาโรงเรียนทางโรงเรียนก็ได้ตั้งรับปัญหาดังกล่าวไว้เป็นระบบแล้ว


สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนในวันแรก ก็ได้รับแจ้งจากครูที่ปรึกษาชั้น ว่าเด็กไม่ได้มาโรงเรียน เนื่องจากแม่ต้องการให้ไปเรียนในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา แต่เด็กอยากมาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ โดยจะมาเช่าบ้านอยู่คนเดียว ก็ได้ให้คำปรึกษาไปว่าเด็กยังเป็นผู้เยาว์ การมาเช่าบ้านโดยไม่มีผู้ปกครองดูแลย่อมทำไม่ได้ การที่แม่ต้องการให้ย้ายไปเรียนใน จ.สงขลา เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากแม่มีรายได้ไม่มากนัก จนต่อมาก็ได้รับแจ้งจากครูที่ปรึกษาของเด็กคนนี้ว่า เด็กยังไม่มาโรงเรียน ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวปรึกษากับ รอง ผอ.โรงเรียนฯ ว่าปัญหาของเด็กน่าจะไม่จบ น่าจะมีเรื่องที่จะต้องดูแลกันต่อไป


ต่อมา รอง ผอ.โรงเรียน ฝ่ายกิจการนักเรียน ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ ผอ.โรงเรียนได้รับทราบว่าในขณะนี้เด็กอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ต่อมาเพื่อนของเด็กคนดังกล่าวได้โทรศัพท์มาหาเพื่อนของเขา ซึ่งครูที่ปรึกษาได้ให้ตนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับเด็กคนดังกล่าว และทราบว่าเด็กพักอยู่กับพ่อเลี้ยงใน อ.คลองหอยโข่ง แต่ไม่ทราบว่าแม่ไปทำงานที่ไหน แต่แม่จะส่งเงินมาให้สัปดาห์ละ 400 บาท โดยแบ่งกับพ่อเลี้ยงคนละ 200 บาท และยังยืนยันว่าจะมาเรียนที่ จ.พัทลุง จะมาเช่าบ้านอยู่แต่ทางโรงเรียนก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตราย


ทางตนจึงได้บอกนักเรียนไปว่า แม่ต้องการจะให้เด็กย้ายไปเรียนที่ จ.สงขลา หรือจะมาเรียนที่ จ.พัทลุง หากแม่ต้องการให้ย้ายโรงเรียนเด็กก็ควรจะย้าย หากเด็กไม่ย้ายโรงเรียน ครูก็เตรียมบ้านพักเด็กและเยาวชนโคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง ไว้ให้แล้ว ซึ่งที่นั้นมีระบบการส่งต่อนักเรียนที่ดี มีที่พัก ที่กิน รถยนต์รับส่ง แต่นักเรียนจะต้องนำผู้ปกครองมาเซ็นรับรอง หากแม่ไม่ยินยอมก็เป็นเรื่องของแม่ หากแม่ต้องการให้เด็กย้ายก็ให้เตรียมภาพถ่ายมาด้วยจะได้ไม่เสียเวลา หากเอกสารการย้ายเสร็จวันไหนครูจะส่งให้ภายหลัง นี่คือเหตุการณ์ที่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด


ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 ตนก็ได้รับแจ้งจากครูที่ปรึกษาว่าเด็กได้เสียชีวิตไปแล้ว จนเรื่องราวฉาวตามสื่อต่างๆ ตนจึงขอความเป็นธรรมให้กับครู โรงเรียน นักเรียน ในทุกปัญหาที่เกิดขึ้น เวลาเราบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านสื่อ ขอให้ทุกฝ่ายได้ให้ความเป็นธรรมกับครู นักเรียน และองค์กรด้วย และประการสำคัญปัญหาของเด็ก เยาวชน เป็นปัญหาที่ลึกซึ้งที่ใครๆ จะทราบปัญหาที่แท้จริงและมีความเข้าใจที่แท้จริง รวมทั้งให้ความจำกัดความว่าปัญหาได้เริ่มที่ตรงจุดไหน ใครทำเด็ก เพราะในส่วนที่เราไม่รู้ยังมีอีกมากมาย จึงวอนขอความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่ายด้วย


คุณอาจสนใจ

Related News