สังคม

โผล่อีก เหยื่อทหารเก๊เทงานแต่ง อดีตว่าที่เจ้าสาวเปิดใจ ชอบอ้างตัวเป็นทหารหลอกยืมเงิน

โดย onjira_n

9 พ.ค. 2565

151 views

จากกรณี น.ส.น้ำทิพย์  อายุ 40 ปี สาวโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งถูกเจ้าบ่าว นายเอก สุวรรณหงส์ หรือ จ่าเอก หนีงานพิธีมงคลสมรส เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องเป็นหนี้ค่าจัดเตรียมงานแต่ง รวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาทตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น



ล่าสุดวันนี้ (9 พฤษภาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเหยื่อผู้เสียหายอีกรายที่ถูกนายเอกเทงานแต่งงาน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางปี 2563 ซึ่งขณะนั้นนายเอกทำงานเป็นการ์ดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา และได้เคยหลอกลวงหญิงสาวอีกรายในลักษณะเดียวกัน โดยหญิงสาวรายดังกล่าวทำงานเป็นสาวเสิร์ฟของร้านอาหาร ชื่อว่า น.ส.เอ  โดยนายเอกได้ออกอุบายขอแต่งงาน และยื่นข้อเสนอเป็นสินสอดเงินสด และทองคำ จนฝ่ายหญิงตกลง และมีกำหนดจัดงานแต่งงานในวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 โดยมีพิธีหมั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 แต่เมื่อถึงกำหนดพิธีหมั้น นายเอกกลับไม่ยอมไปร่วมพิธี โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ทำให้งานหมั้น และงานแต่งต้องล้มเลิกไป



ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.เอ  ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านหนองปลิง ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วงนั้นตนทำงานเป็นสาวเสิร์ฟที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง และพบเห็นนายเอกไปเที่ยวที่สถานบันเทิงเกือบทุกวันเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน โดยนายเอกมักจะสวมเสื้อคลุมปักโลโก้กองทัพบกมาทุกครั้ง และบอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้า รปภ.อยู่ที่โรงงานน้ำตาลครบุรี ซึ่งนายเอกมักจะเข้ามาตีสนิท ก่อนที่นายเอกจะตกลงมาอาศัยอยู่กับตน โดยนายเอกบอกกับตนว่า ตัวเองเป็นทหารนอกเครื่องแบบ และโชว์บัตรประจำตัวทหารให้ดูด้วย ซึ่งหลังนายเอกมาอยู่กับตนได้ 1 ปี ตนกับนายเอกก็ตกลงจะแต่งงานกันตามประเพณี ซึ่งแม่ของตนเรียกสินสอดเป็นเงิน 4 หมื่นบาท และทองคำ น้ำหนัก 2 บาท แต่นายเอกกลับบอกแม่ของตนว่า จะให้สินสอดเป็นเงินสด 2 แสนบาท และทองคำ น้ำหนัก 4 บาท มีกำหนดงานหมั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 และมีกำหนดงานแต่งในวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ก่อนที่นายเอกจะเทไม่ยอมมาร่วมงานหมั้น โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา แต่มาภายหลังตนรู้ว่านายเอกมีพฤติกรรมหลอกลวงลักษณะแบบนี้หลายราย



ทั้งนี้ตนต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่เตรียมงานหมั้น และเตรียมงานแต่ง โดยทยอยนำทองคำของตนไปขาย น้ำหนักประมาณ 3 บาท และนายเอกยังนำเงินเก็บของตนประมาณ 1 แสนบาท ไปใช้จ่ายโดยอ้างว่ามีธุระจำเป็น นอกจากนี้นายเอกยังไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องของตน รวมเป็นอีกประมาณ 4 หมื่นบาท ตอนนี้ทุกคนก็ยังไม่ได้เงินคืน ซึ่งตนเชื่อว่า ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนโดนนายเอกหลอกลวงแบบนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.โพธิ์กลาง



นางนันทวัน แม่ของ น.ส.เอ เปิดเผยว่า ก่อนโดนเทงานแต่ง ตนรู้ว่านายเอกได้คบหาอยู่กับลูกสาวของตน และได้ไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน โดยนายเอกเข้าออกที่บ้านของตนอยู่ประมาณ 5-6 เดือน ก่อนที่นายเอกจะขอลูกสาวของตนแต่งงาน โดยยื่นข้อเสนอเป็นสินสอดเงินสด จำนวน 4 แสนบาท และทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ซึ่งยอมรับว่าตอนนั้นครอบครัวของตนไว้ใจนายเอกมาก เนื่องจากลูกสาวบอกว่า นายเอกเป็นนายทหารยศร้อยเอก และระหว่างที่คบหากันนายเอกเป็นคนพูดจาไพเราะ เอาใจเก่ง นิสัยเข้าได้กับทุกคน จนกระทั่งมาถึงกำหนดวันหมั้นช่วงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 นายเอกได้ขอตัวออกจากบ้านไปอ้างว่า จะไปรับญาติมาร่วมพิธี แล้วจากนั้นก็หายตัวไปเลย ลูกสาวของตนได้โทรศัพท์ตาม นายเอกรับสายก็อ้างติดปัญหาต่างๆ นานา ทำให้ต้องล้มเลิกทั้งงานหมั้น และงานแต่งไป โดยครอบครัวตนเสียเงินจัดเตรียมงานไปประมาณ 1 หมื่นบาท และก็ยังมีเงินส่วนที่นายเอกหลอกยืมตน และญาติของตนรวมกันอีกกว่า 1 แสนบาท



และเมื่อมารู้ว่า นายเอกได้ไปหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นอีก ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหยื่อคนอื่นที่ต้องมาโดนหลอกเหมือนกับลูกสาวของตน ทั้งนี้อยากฝากให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายเอกมาดำเนินคดีโดยเร็ว จะได้ไม่ไปทำพฤติกรรมหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นเพิ่มอีก ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา



คุณอาจสนใจ

Related News