นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วน พอใจติดเชื้อหลักพัน 5 วันติด จ่อขยายคนละครึ่งเฟส5

(6 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ​ ศบศ. โดยมีรองนายกรัฐมนตรี​ รัฐมนตรี​ด้านเศรษฐกิจ​ และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง



โดยนายกรัฐมนตรี​ ​ระบุในที่ประชุมว่า​ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และมีแนวโน้มที่คล้ายลงอย่างต่อเนื่องมีการกระจายวัคซีนเข็มกระตุ้น ทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง และผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้เสียชีวิตอยู่ภายใต้ระบบสาธารณสุขที่มีการเตรียมการไว้ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการทำงานบริหารจัดการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด​เป็นผลมาจากสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ รวมถึงภาคเอกชน ที่ร่วมมือการปฏิบัติตามคำแนะนำ วันนี้องค์การอนามัยโลก ยกย่องให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ



อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน และสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างใกล้ชิดต่อไป ต้องเตรียมแผนรับมือ ปรับมาตราการให้เหมาะสมและทันท่วงที ซึ่งจากข้อมูลฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า การเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ หรือ เดินทางเข้ามาในโครงการนำร่องด้านการท่องเที่ยวและบริการ แม้จะตรวจพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้างแต่ก็เป็นจำนวนน้อย และสามารถควบคุมได้ จึงอาจไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลทำให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกในปัจจุบัน หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค มีการเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ตรงกับนโยบายของรัฐบาล "Living with covid-19" ดังนั้น ศบค. จึงมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งการกำหนดพื้นที่นำร่อง เงื่อนไขการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ในปี 2565 ด้วย



สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจวันนี้​ จะมีการรายงานถึงสถานการณ์ด้าน​เศรษฐกิจ​ล่าสุด​ และสถานการณ์​ด้านการท่องเที่ยวในประเทศ​ไทย​ ขณะเดียวกัน​ จะมีการรายงานความคืบหน้ามาตรการกระตุ้น​เศรษฐกิจและการลงทุน​ โดยการดึงดูด​ชาว​ต่างชาติที่มีศักย​ภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย​ รวมถึง​ความคืบหน้ามาตรการ​ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย



นอกจากนี้​ ที่ประชุมจะพิจารณาแผนพัฒนาและฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในกลุ่มจังหวัดอันดามัน​ คือ​ ภูเก็ต​ กระบี่​ และพังงา​ และการสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้จัด จ.ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงาน​ Spacialised Expo​ 2028 ซึ่งเสนอโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย



ขณะเดียวกัน​ ททท.เตรียมเสนอการเพิ่มสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ผ่าน โดยการเพิ่มสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะนำวงเงินเดิมที่เหลืออยู่มาเพิ่มสิทธิจำนวนห้องพัก และจำนวนห้องพักจะมีมากน้อยเท่าไหร่นั้น ต้องรอการประเมินวงเงินที่เหลืออยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนพฤษภาคมนี้



รวมไปถึงคาดว่าที่ประชุมจะมีการพิจารณาและเห็นชอบ​ขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 5 วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 บาทต่อคน และคงสูตรที่รัฐและประชาชนใช้จ่ายคนละ 50%