สังคม

'กาโตะ' หลบสื่อ คืนเงิน 6 แสนที่วัดอื่น ลุงกรรมการวัดไม่เอาผิด แค่คืนก็จบ ชี้ตอนบวชทำประโยชน์ให้วัด

โดย thichaphat_d

5 พ.ค. 2565

134 views

อดีตพระกาโตะ ดอดคืนเงินวัด 6 แสน มีพระผู้ใหญ่ – นายกอบต. เป็นพยานรับมอบที่วัดต่างอำเภอ ก่อนนำเงินเข้าบัญชีวัดเพ็ญญาติวันนี้ กรรมการวัดไม่เอาผิด เพราะเป็นคนหาเงินให้วัดเพียบ แต่ผู้บังคับการ ปปป. ชี้ เป็นความผิดสำเร็จแล้วตั้งแต่เบิกถอนเงิน เข้าข่ายผิด กฎหมายอาญา มาตรา 147 โทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต


เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (4 พ.ค. 65) สื่อมวลชนได้รับหนังสือ บันทึกข้อตกลงคืนเงิน โดยหนังสือเขียนด้วยลายมือ ระบุ ว่า บันทึกที่ วัดมังคลาราม วันที่ 4 พฤษภาคม 2565


“ตามที่อดีตทิดกาโตะ ได้เบิกเงินวัดเพ็ญชาติไป เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท นั้น จึงเป็นที่สนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก วันนี้ทิดกาโตะ นายพงศกร จันทร์แก้วได้นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท”


มีพยานรับทราบ 1. พระครูอรรถธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง วัดวังม่วง 2. พระบุญการ โกศล เจ้คณะตำบลพิปูน วัดมังคลาราม 3. นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด 4.นายกิตติ หนูเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 5. นายจิรรัชญ์ เกษมเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2


ผู้รับมอบเงิน 600,000 บาท เพื่อนำเข้าธนาคารบัญชีวัดเพ็ญญาติวันนี้ (5 พ.ค.2565) นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด รับทราบนำไปไปฝากทราบนำไปฝากธนาคาร นายโชคดี นุมาศ นายวสันติ จงรวย โดยทุกคนเซ็นชื่อรับทราบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนำเงินไปมอบคืนที่วัดมังคลาราม ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราชนั้น เพื่อหลบหนีการติดตามของกองทัพนักข่าว โดย 1 ในพยานผู้ร่วมเซ็นรับทราบมีนายสันติ จงรวย กรรมการวัดที่มีอำนาจในการเซ็นเบิกเงินในบัญชีวัดเพ็ญญาติ ที่ร่วมเซ็นเบิกเงิน 600,000 บาท กับอดีตพระกาโตะร่วมอยู่ด้วย


แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ทุกอย่างจบลงด้วยดี ส่วนในทางกฎหมายใครจะทำอย่างไรก็ว่ากัน แต่ตอนนี้ทางวัดไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว คืนก็แปลว่าจบ ส่วนใครจะนำเงินมาคืนให้ก็ไม่ต้องสนใจ เอาเงินวัดไปเท่าไหร่ คืนครบก็จบ ส่วนถามว่าเงินที่เหลืออีก 3 แสน ก็ไปตามกันเอาเอง บทเรียนถูกหลอกมีให้เห็นมากในสังคมไทย


ขณะที่ นายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมทนายความเมืองคอน กล่าวว่า ถึงจะมีการคืนเงินที่เบิกไป 600,000 บาทแล้ว แต่ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว การเอาไปใช้ส่วนตัว อาจจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดได้ โทษจำคุก 3 ปี


แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึง 400,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้


ขณะที่ความคืบหน้าการติดตามพระคนกลางที่นำเงิน 3 แสนบาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกตัวมาสอบปากคำ โดยพบว่ายังไม่สามารถติดต่อพระคนกลางได้ อย่างไรก็ตามสอบถามเด็กภายในวัด ทราบว่าพระคนกลางไม่อยู่ ไม่ได้ลงมาทำกิจสงฆ์ด้วยตั้งแต่วันเกิดเหตุ


ทั้งนี้ ก่อนหน้านีั อดีตพระกาโตะ ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับเงินที่ต้องนำมาจ่ายให้กับพระผู้ใหญ่คนกลาง เพื่อนำไปใช้ในการเคลียร์เรื่องราวปิดข่าวฉาว คือ ให้สีกาตอง 3 แสนบาท และให้คนกลางไว้ 3 แสนบาท เพื่อนำเงินไปเคลียร์กับนักข่าว ซึ่งครั้งนั้นอดีตพระกาโตะบอกว่า เป็นเงินของตนเองที่เบิกมาเป็นเงินสด โดยไม่ใช่เงินของวัดแต่อย่างใด


แต่หลังจากนั้น คณะกรรมการวัด ออกมาเปิดเผยว่า ช่วง 2 วันก่อนที่อดีตพระกาโตะจะลาสิกขา ได้มาขอเบิกเงินจากวัดไป 600,000 บาท ซึ่งตามระเบียบการเบิกเงินของวัดแต่ละครั้ง จะต้องมีคณะกรรมการทั้งหมด 3 คน และจะต้องมีการเซ็น 2 ใน 3 ของกรรมการเซ็นต์ยินยอมจึงจะเบิกได้


ซึ่งอดีตพระกาโตะ ได้ยอมรับเรื่องการเบิกเงินจากบัญชีวัด ซึ่งต้องมีกรรมการมีทั้งหมด 3 คน คือ อดีตพระกาโตะ / ช่างบ่าว / ลุงโชคดี โดยกรรมการนี้ไม่ได้มีการแต่งตั้ง แต่เป็นที่รู้กันว่า 3 คนนี้สามารถเบิกจ่ายเงินของวัดได้


ซึ่งวันที่ไปเบิกมีตนกับช่างบ่าว เป็นคนไปเซ็นนำเงินออกมา จุดประสงค์คือการยืมเงินวัด ไม่ได้มีเจตนายักยอก เพราะตนมีเงิน 6 แสนบาทอยู่แล้วแต่ไม่สามารถเบิกออกมาได้ เพราะอยู่ที่ญาติ


นายโชคดี นุมาศ หนึ่งในกรรมการวัดเพ็ญญาติ หมู่ 3 ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เงินจำนวน 600,000 บาท ที่อดีตพระกาโตะเอาไปจากวัดนั้น ถือเป็นการยืม เพราะเงินทั้งหมดในวัดนั้น อดีตพระกาโตะเป็นผู้ที่หามาให้กับวัดเองทั้งสิ้นกรรมการวัดที่มีการมอบเงินให้ไป ถือว่าเป็นการยืม และทางอดีตพระกาโตจะมีการนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้กับกรรมการวัดในวันนี้ ตนและอีก หลายคนจะเดินทางไปรับเงินคืน แต่จะไม่บอกว่าไปที่ใด


มื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกผิดหวังกับพระกาโตะหรือไม่ นายโชคดี กล่าวว่า ไม่ผิดหวัง เพราะที่ผ่านมาอดีตพระกาโตะได้ทำประโยชน์ให้กับวัดมากมายและพัฒนาวัด ส่วนที่ถามว่าจะมีการแจ้งความอดีตพระกาโตะหรือไม่ ก็จะไม่มีการแจ้งความใดๆ เพราะเป็นเงินที่ยืมและมีการมาคืนให้ไม่มีปัญหา


ด้าน นายวสันติ จงรวย กรรมการวัด เปิดเผยว่า การเบิกเงินวัดแต่ละครั้งจะต้องมีกรรมการที่มีอำนาจเซ็นชื่อ คือตน พระกาโตะ กรรมการวัดอีกท่านหนึ่ง ต้องเซ็น 2 ใน 3 คน ก่อนสึก 2-3 วัน อดีตพระกาโตะ อ้างว่า จะเบิกเงิน 6 แสนบาท จ่ายค่าก่อสร้างเสนาสนะในวัด ตนกับอดีตพระกาโตะร่วมกันเซ็นเบิกเงินจำนวนดังกล่าวจากธนาคาร แต่จากการติดตามข่าวว่ามีการจ่ายเงินให้สาวตอง 3 แสน และจ่ายนักข่าว 3 แสนบาท ผ่านทางพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง


ทำให้มั่นใจว่าเงิน 6 แสนบาทที่เคลียร์เรื่องคือเงินที่ไปเบิกมาจากธนาคาร ที่อดีตพระกาโตะอ้างเป็นเงินส่วนตัวไม่เป็นความจริง ตนเซ็นเบิกเงินด้วยเท่ากับร่วมสร้างบาปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกรงจะมีความผิดด้วย ต้องออกมาเปิดเผยความจริง อยากให้อดีตพระกาโตะนำเงินมาคืน และตนอาจเข้าแจ้งความเร็วๆนี้

คุณอาจสนใจ