ส่องเพื่อนบ้าน 'มาเลเซีย-กัมพูชา' เลิกบังคับใส่แมสก์ในที่โล่ง - ท่องเที่ยวไทย ชงยกเลิกไทยแลนด์พาส

วานนี้ (27 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มมีแนวโน้มลดลงว่า สถานการณ์ขณะนี้คงตัวมาระดับหนึ่งแล้ว หวังว่าถ้าไม่มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์อื่นในช่วงนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตน่าจะลดลงในระยะเวลาอันใกล้

เมื่อถามถึงความพร้อมการเป็นโรคประจำถิ่น มีจังหวัดใดที่พร้อมดำเนินการ นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนใหญ่ก็มีความพร้อมแทบทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็รับทราบนโยบายของรัฐบาล และความต้องการของประชาชนที่อยากจะให้ผ่อนคลายมาตรการมากที่สุด ทำให้เปิดประเทศทำมาหากินได้

เมื่อถามต่อว่า การปรับสู่โรคประจำถิ่นจะดำเนินการนำร่องแซนด์บ็อกซ์บางจังหวัด หรือภาพรวมทั่วประเทศ นายอนุทิน กล่าวว่า เข้าใจในบริบทเดียวกันว่าต้องทั้งประเทศ จะไปโรคประจำถิ่นจังหวัดนี้ ข้ามไปอีกจังหวัดหนึ่งไม่เป็นก็วุ่น ต้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อความเข้าใจ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากแล้ว ประชาชนให้ความร่วมมือเต็มที่ สวมหน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีนแล้วไม่ป่วยหนัก ไม่เสียชีวิต สถานพยาบาลมีพร้อม ยาพร้อม บุคลากรทางการแพทย์พร้อม ก็ต้องลุยเดินหน้า

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ภายในการประชุมครั้งถัดไป ให้พิจารณายกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส โดยจะขอให้มีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป และเปลี่ยนมาใช้วัคซีนพาสปอร์ต ควบคู่กับการให้นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลการได้รับวัคซีนลงในใบตม.6 แทน เพื่อสร้างความสะดวกให้กับการเดินทางมากขึ้น รวมถึงผู้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย

----------

ด้าน ประเทศมาเลเซีย ยกเลิกการสวมหน้ากากภายนอกอาคาร แต่ยังสนับสนุนให้สวมโดยเฉพาะในสถานที่ผู้คนแออัด ในอาคาร และรถโดยสารสาธารณะ 

และยังยกเลิกการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึง สำหรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว คนที่หายจากโควิด 6-60 วัน ก่อนออกเดินทาง และนักเดินทางที่อายุไม่เกิน 12 ปี ยกเลิกประกันการเดินทางสำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้าประเทศ แต่คนที่ฉีดวัคซีนไม่ครบยังต้องตรวจโควิด และบังคับกักตัวห้าวัน เรอ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป

-----------

ส่วนที่กัมพูชา สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่เปิดโล่งทั่วประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ทันที หลังจากประชากรส่วนใหญ่ในประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว

โดยปัจจุบันประชากรกว่า 93% ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส และ 88.5% ได้ฉีดวัคซีนครบโดส ส่วนอีก 51.7% ได้ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น ซึ่งกัมพูชาใช้วัคซีนของซิโนแวคและซิโนฟาร์มจากจีนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่วานนี้ กัมพูชาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 2 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่

ผู้นำกัมพูชาระบุว่า ประชาชนตัดสินใจได้เองว่าจะสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งหรือไม่ ส่วนพื้นที่ปิดในร่มที่มีเครื่องปรับอากาศ อาทิ ห้องประชุมและโรงภาพยนตร์ จะยังบังคับสวมหน้ากากอนามัยต่อไป.

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3yurswOTM5E