สังคม

'สุวรรณภูมิ' ปัดจำกัดสิทธิ์รถฉุกเฉิน หลังลูกร้องเรียน พ่อช็อกกลางสนามบิน แต่รถกู้ภัยเข้าไม่ได้

โดย thichaphat_d

27 เม.ย. 2565

221 views

วานนี้ 26 เม.ย. 65 มีเหตุการณ์ที่ลูกชายออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์ว่า คุณพ่อซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ได้ไปส่งผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่เกิดอาการช็อกกะทันหัน พอแจ้งรถกู้ภัย-มูลนิธิปรากฏเข้าไม่ได้ เพราะต้องรถของทางเอกชนเท่านั้น ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิตแถมถูกเรียกเก็บเงิน 13,000 บาท วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาด่วน เคสฉุกเฉินวินาทีเป็นวินาทีตาย กลับไร้ทางเลือก ถูกมัดมือชก


ด้านนายภัคพล เมธีภักดี อายุ 37 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ได้ระบุว่าพ่อหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเบอร์โทรศัพท์มือถือโทรเข้ามาซึ่งเป็นของทีมกู้ชีพของ รพ.เอกชนที่ประจำสนามบิน ว่าให้ไปจ่ายเงิน 13,000 บาท


โดยอ้างว่าเป็นค่ารักษาและค่าอุปกรณ์ก่อนนำตัวส่งที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนผู้ที่แจ้งเข้ามาคือ เจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิได้แจ้งเข้ามาผู้คนป่วยมีอาการชักบนชั้น 4 ของอาคารที่เป็นจุดรับผู้โดยสาร ทางหน่วยกู้ชีพของ รพ.เอกชนที่ประจำสนามบินจึงออกไปช่วยเหลือก่อนที่จะส่งตัวต่อ


ซึ่งตนได้สอบถามว่าทำไมจึงคิดค่าบริการเพราะเคสของคุณพ่อเป็นเคสฉุกเฉินอยู่แล้วสามารถทำเรื่องเบิกกับทางรัฐบาลได้ ทางกู้ชีพของ รพ.เอกชน ได้แจ้งว่าทีมกู้ชีพเอกชนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระบบ สพฉ. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ


ถ้ามีเหตุเกิดในสนามบินที่อยู่ภายอาคารเอกชนต้องเป็นผู้ดำเนินการอย่างเดียว พร้อมทั้งบอกอีกว่า พื้นที่สนามบินตรงนั้นเป็นเขตปกครองพิเศษ เป็นพื้นที่ดูแลของเอกชน รถพยาบาลในระบบ หรือมูลนิธิ ไม่สามารถเข้ามารับได้


นอกจากนี้ นายภัคพล ยังเล่าต่อว่า ทำไมยังต้องเก็บค่าบริการ ทั้งๆ ที่เป็นเคสฉุกเฉินรถกู้ภัยสามารถทำเรื่องเบิกได้ และติดใจว่าหากเป็นคนหาเช้ากินค่ำที่ไม่มีเงินจะทำอย่างไร ต้องหาเงินจากไหนมาจ่ายกัน หากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่พิเศษจริง แล้วคนจนจะไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือหรืออย่างไรโดยที่ผู้ประสบอุบัติเหตุไม่มีทางเลือกให้ประชาชนเลย เหมือนกับมัดมือชก


ขณะที่ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ออกมาชี้แจงว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ยืนยันว่าไม่ได้มีการจำกัดสิทธิ์ของรถฉุกเฉินในสังกัด สพฉ. สายด่วน 1669 ในการเข้าพื้นที่สาธารณะในเขต ทสภ. แต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ภายในพื้นที่สาธารณะ ทสภ. ทั้งนี้ รถฉุกเฉินจากสังกัดหน่วยงานหรือมูลนิธิต่างๆ สามารถเข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้มาโดยตลอด


ขณะที่ นายอัญญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู ได้เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่าโดยปกติแล้วทางกู้ภัยสามารถเข้าไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินภายในสนามบินได้เกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ที่จอดรถบริการสาธารณะ ภายในรันเวย์ หรือภายนอกอาคาร แต่สิ่งที่เข้าไปรับไม่ได้คือการเกิดอุบัติเหตุภายในอาคาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของคลินิกทางท่าอากาศยานอยู่แล้ว


ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จุดเกิดเหตุมีผู้ป่วยชักอยู่ชั้นที่ 4 ของอาคารท่าอากาศยานจึงน่าจะอยู่ในเขตความรับผิดชอบของคลินิกทางท่าอากาศยานอยู่แล้ว จึงทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือรถฉุกเฉินในสังกัด สพฉ.ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้


ทั้งนี้นายภัคพลระบุว่าคงต้องรอจัดงานศพของพ่อให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะต้องไปจัดการเรื่องเงิน เพราะตอนนี้ตนก็มีเงินไม่มากพอ แถมไม่รู้ว่าต้องใช้จ่ายงานศพของพ่ออีกเท่าไหร่ สุดท้ายอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จัดแผนนี้ หากเป็นประชาชนหาเช้ากินค่ำที่ไม่มีเงินมากพอจะทำอย่างไรได้ คนเราไม่รู้จะตายวันไหน ยิ่งหากเกิดเคสแบบนี้อาจจะทำให้หลายคนเครียดเรื่องเงินไปมากกว่านี้ก็ได้


ประชาชนทุกคนควรเข้าถึงสิทธิตรงนี้ ญาติทุกคนไม่ได้มีเงินเสมอไป เราสูญเสียอยู่แล้ว ยิ่งเจอแบบนี้เหมือนเป็นการซ้ำเติมซ้ำอีก ตนจึงอยากเป็นกระบอกเสียงสะท้อนให้ศูนย์เอราวัณ หรือ สพฉ. มีอำนาจเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เอกชน หรือสถานที่ใดก็ตาม หากได้รับแจ้งเหตุ โดยไม่มีการขวาง ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบที่ตนเจอ ซึ่งอาจจะทำให้คนที่ไม่มีเงินเครียดเพิ่มจากเดิมอีกด้วย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OrKM-mdhQcM


คุณอาจสนใจ

Related News