หอการค้าชี้หากรัฐปรับสูตรคนละครึ่งไม่สร้างอิมแพคกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยมุมมองภาคเอกชน คือ ขณะนี้ยังต้องการมาตรการเสริม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากได้โครงการคนละครึ่ง ในวงเงิน 1,500 บาท ก็จะช่วยให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินมากขึ้น ตามที่ได้เคยแจ้งไปแล้ว โดยรัฐบาลจะใช้งบประมาณ ประมาณ 45,000 ล้านบาท (30 ล้านคน) ซึ่งส่วนนี้ จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและมีเงินเข้าระบบ 90,000 ล้านบาท เมื่อคำนวนแล้วจะทำให้ GDP มีตัวเลขดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65 %



อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลออกให้เพียง 25% ก็จะทำให้ตัวเลขผลกระทบเปลี่ยนแปลงไป โดยเม็ดเงินที่รัฐบาลใส่เข้ามาในระบบนั้น จะไม่สามารถสร้าง Impact ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเพียงพอ หากการกระตุ้นครั้งนี้ไม่เกิดผล และเศรษฐกิจมีการทรุดตัวลง การกลับมาฟื้นเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่า



ทั้งนี้ การใช้จ่ายของประชาชนในโครงการคนละครึ่ง ทำให้ประชาชนมีความถี่ในการใช้จ่ายได้ทุกวัน แต่หากได้ปริมาณเงินที่น้อยกว่าเดิม ระยะเวลาในการใช้จ่ายจะสั้นลงจนไม่สามารถสร้างโมเมนตัมทางเศรษฐกิจได้



หอการค้าไทยยังเชื่อว่า โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เป็นมาตรการที่จำเป็นในสถานการณ์ที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเช่นนี้ เพราะเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวก็ยังไม่กลับมา กำลังซื้อของประชาชน ตลอดจนสภาพคล่องของภาคธุรกิจก็ยังมีปัญหาอยู่ และอาจจะถูกซ้ำเติมจากปัญหาราคาน้ำมันในเดือนหน้าอีก ดังนั้น ขอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้งบประมาณที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด