ศาลจำคุก 6 เดือนสาวทอมวัย 25 ปี สร้างเรื่องถูกดูดเลือดขายในเขมร

ศาลจังหวัดสระแก้ว สั่งจำคุกสาววัย 25 ปี 6 เดือนไม่รอลงอาญา หลังสร้างเรื่องถูกดูดเลือดขายในฝั่งกัมพูชาขณะทำงานเป็นแอดมินออนไลน์ โดยสาววัย 25 ปียอมรับว่า ที่ต้องสร้างเรื่องในการถูกดูดเลือดไปขาย ก็เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วนเพราะต้องการกลับไปหาแฟนสาวในฝั่งไทย ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ตั้งโต๊ะแถลงด่วนร่วมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่กัมพูชา ข่าวการที่มีคนไทยถูกเลือดไปขายขณะอาศัยทำงานอยู่ในฝั่งกัมพูชา สร้างความเสียหายและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

หลังจากทีมงานบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศพดส.ตร.เร่งให้ความช่วยเหลือ 8 คนไทยถูกหลอกทำงานออนไลน์ในฝั่งกัมพูชา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยหนึ่งในจำนวนนี้ มีหญิงไทยคนหนึ่งอายุ 25 ปี ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า ในช่วงที่ถูกกักขังตัวอยู่ในฝั่งกัมพูชานั้น ได้ถูกกลุ่มนายทุนชาวจีนวางยาสลบ ก่อนจะนำไปดูดเลือด 3 ถุง ทำให้ในขณะนั้น ทีมงานบิ๊กโจ๊กเร่งประสานเจ้าหน้าที่ในฝั่งกัมพูชา เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ จนสามารถนำตัวกลับเข้ามาในฝั่งไทยอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยพลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. , พลตำรวจเอกวรรณวีระ สม ผบ.กองกำลัง ตร.สันติบาลกัมพูชา , พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. , นายมานะ สิมมา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวของนางสาวอารียา คมกระโทก หญิงไทยอายุ 25 ปีคนนี้ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมา โดยนางสาวอรียาฯได้สร้างเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาเอง ทั้งตัวละครคนไทยที่อ้างว่าไปขอความช่วยเหลือ รวมถึงชื่อบัญชีเฟสบุ๊กที่ปลอมขึ้นมา / โดยนางสาวอารียา ยอมรับว่า ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างเร่งด่วน เพียงเพราะต้องการกลับมาหาแฟนในฝั่งไทยที่ได้รับการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้

พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รอง.ผบ.ตร.ยอมรับว่า จากคำให้การของนางสาวอารียาฯนั้น ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชา แต่จากการสอบปากคำด้วยตัวเอง ยืนยันว่า หญิงไทยคนนี้ สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา เพียงเพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกลับประเทศ ขณะที่พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยืนยันว่า คำโกหกการของหญิงสาว มีความผิดร้ายแรงมากกว่าแจ้งความเท็จเสียอีก

ส่วนพลตำรวจเอกวรรณวีระ สม ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจสันติบาลกัมพูชา ที่เดินทางไปร่วมแถลงข่าวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ยอมรับว่า กระทบไปถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของคนกัมพูชาอย่างยิ่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ทำงานร่วมกัน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนางสาวอารียา คมกระโทก ให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ส่งฟ้องศาลจังหวัดสระแก้วเมื่อวานนี้(19 มี.ค.) ก่อนที่ศาลจะตัดสินจำคุกนางสางอารียาฯ เป็นเวลา 6 เดือนไม่รอลงอาญา