สังคม

ยายวัย 83 ร่ำไห้ ถูกลูกในไส้ ฟ้องดำเนินคดีปมที่ดิน เศร้าลูกไม่เคยมาเยี่ยม ได้แต่หมายศาล

โดย thichaphat_d

16 มี.ค. 2565

17 views

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางเสาวนิจ ภู่อิ่ม อายุ 83 ปี คุณยายชาวสวนอาศัยอยู่ย่านบางกรวย ที่ถูกลูกแท้ ๆยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาและแพ่งในข้อหา ยักยอกทรัพย์, แจ้งความเท็จ


แต่คดีอาญาศาลยกฟ้อง เนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดาน ไม่สามารถฟ้องบุพการีแท้ๆ ได้ แต่ลูกชายยายเสาวนิจ ก็ยังไม่ยอมเลิกฟ้องคุณแม่ในคดีแพ่ง ซึ่งจะต้องขึ้นศาลแขวงนนทบุรี ในวันที่ 5 เมษายน 65 นี้ ทำให้คุณยายเสาวนิจ ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ไม่คิดว่าลูกที่เลี้ยงมากับมือจนโตและส่งเสียให้ได้เล่าเรียนจนสูง ๆ กลับตอบแทนบุญคุณผู้เป็นแม่ได้ขนาดนี้


ยายนิจ เล่าให้ฟังว่า ตนอยู่กินแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามีคือ นายสมนึก ภู่อิ่ม มานานกว่า 50 ปี  มีลูกด้วยกัน 4 คน เป็นหญิงสามคน ชายหนึ่งคน

คนโตชื่อนางสาวชวัลรัตน์ (นิด) ภู่อิ่มอายุ 63 ปี

คนที่สองชื่อนายมนัส (จ๊อด) ภู่อิ่ม อายุ 61 ปี

คนที่สามชื่อนางสาวรัตนา (รัตน์) ภู่อิ่ม อายุ 58 ปี

และคนที่สี่ชื่อนางสาวอรสา (สา) ภู่อิ่ม อายุ 57 ปี (เสียชีวิตแล้ว)


ช่วงที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ตนทำสวนเก็บเงินจนซื้อที่ดินเก็บไว้หลายแห่ง ทั้งจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และที่ ๆ ตนอยู่ในปัจจุบันย่านบางกรวย ส่วนสามีก็เอาแต่กินเหล้าไม่ได้ช่วยทำมาหากินสักเท่าไหร่


ต่อมานายสมนึก สามีตนได้แบ่งที่ดินย่านบางกรวยให้ลูก 3 คน ๆ ละ 161 ตารางวา มูลค่าหลายสิบล้านบาท มีเพียงลูกสาวคนโตที่ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองเป็นภรรยา และเป็นแม่ กลับไม่รู้เรื่อง จึงไปสอบถามที่กรมที่ดินเพราะการแบ่งสมบัติให้ลูก ตนต้องรับรู้ พบว่ามีคนเซ็นชื่อแทนตนตอนนั้น ถ้าตนคิดจะดำเนินคดีสามีกับลูก ก็ต้องติดคุกติดตะราง เลยปล่อยเลยตามเลย เพราะเป็นสามีเป็นลูกของตน


หลังสามีเสียชีวิต ตนซึ่งเป็นภรรยาและจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ได้ทำเรื่องและยกที่ดิน 161 ตารางวา ที่เป็นชื่อสามีให้กับนางสาวธวัลรัตน์ บุตรสาวคนโต เพื่อความยุติธรรมเท่า ๆ กันทุกคน แต่แล้วกลับถูกลูกชายคนรองคือนายมนัส หรือจ๊อด ยื่นศาลฟ้องตน ผู้เป็นแม่แท้ ๆ ในคดี ยักยอกทรัพย์ , แจ้งความเท็จ  ที่นำที่ดินไปยกให้ลูกสาวคนโต โดยไม่บอกกล่าว แต่ศาลยกฟ้องในคดีอาญา เนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดานไม่สามารถฟ้องแม่บังเกิดเกล้าในคดีอาญาได้


จนกระทั่งต่อมานางสาวอรสา บุตรสาวคนเล็กเสียชีวิตลง คุณยายเสาวนิจ ผู้เป็นแม่จะต้องได้ที่ดิน 161 ตารางวา จากลูกสาวคืน ทำให้นายมนัส ลูกชายซึ่งรับราชการกรมอู่ และรู้กฎหมายดี รีบเอาโฉนดของนางสาวอรสา ไปแจ้งกรมที่ดินว่า ถ้ามีใครมาขอคัดสำเนาโฉนดห้ามอย่างเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ชี้แจงว่าที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นของคุณยายเสาวนิจ ผู้เป็นแม่ตามกฎหมาย โดยคุณยายเองได้แจ้งเรื่องและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง


จนเวลาผ่านมากว่า 10 ปี  จู่ ๆ คุณยายเสาวนิจ กลับถูกหมายศาล เรียกให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 5 เมษายน 65 ในฐานะผู้ต้องหาคดี ยักยอกทรัพย์ , แจ้งความเท็จ โดยผู้ฟ้องไม่ใช่ใคร แต่เป็นลูกชายแท้ ๆ คือนายมนัส หรือจ๊อด ที่คุณยายเสาวนิจเลี้ยงมาตั้งตั้งเกิด เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ คุณยายเสาวนิจ ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ไม่คิดว่าตนเองอายุปูนนี้แล้ว จะต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะถูกลูกชายตนเองฟ้อง


"ยายเสียใจมาก ๆ ส่งเสียเลี้ยงดูจนเขาเติบใหญ่ได้งานได้การดี ๆ ตอนยายป่วยเป็นมะเร็งเต้านมต้องตัดทิ้งข้างหนึ่ง เขารับราชการยังไม่ยอมมาเซ็นเบิกให้ตนเลย ตนต้องหมดเงินไปเป็นล้าน ๆ เพื่อรักษา


โชคยังดีที่ยังมีลูกสาวคนโต และหลานมาช่วยเหลือดูแลมาเยี่ยมทุกวัน ส่วนลูกที่เหลือไม่เคยมาสนใจยายเลย ยายหวังว่าสักวันหนึ่งลูกที่เหลืออีกสองคนจะมากราบเท้าขอโทษยายที่เป็นแม่ ซึ่ง 9 ปีกว่าแล้วที่ยายรอคอย แต่ไม่มีเลย กลับเป็นหมายศาลมาแทน" คุณยายเสาวนิจ กล่าวทั้งน้ำตา


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/zJXuguskDiE

คุณอาจสนใจ

Related News