เครื่องบินอุปฑูตอเมริกาลงสนามบินแม่ฮ่องสอนไม่ได้- เชียงใหม่หมอกควันไฟป่ากระทบหนัก

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลา 09.05 น. เครื่องบินขนาดเล็ก แบบ Beechcraft king air 200 มี 'นายไมเคิล ฮีธ' อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่บินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มายังท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ไม่สามารถบินลงยังท่าอากาศยาน ฯ ได้ เนื่องจากประสบกับปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่ลอยปกคลุมในระดับต่ำ จนมองไม่เห็นรันเวย์ของท่าอากาศยาน และสุดท้ายต้องบินกลับไปลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ตามเดิม จากนั้นได้มีการกำหนดแผนการบินใหม่อีกครั้งเมื่อทัศนวิสัยเป็นปกติ

สำหรับ นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในนามสถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาเป็นประธาน ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพิธีเปิดโครงการการอนุรักษ์โลงไม้โบราณที่ถ้ำผีแมนโลงลงรัก ที่อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรได้รับการสนับสนุนทุนการอนุรักษ์เป็นเงินจำนวน 220,000 เหรียญสหรัฐ จากกองทุนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม (U.S. Ambassadors Fund for Cultural Preservation) และพิธีมอบทุนการอนุรักษ์จากกองทุนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม โดย ศ.ดร.รัศมี ชูทรงเดช นักโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้แทนรับมอบ

สำหรับเครื่องบิน Beechcraft king air 200 เป็นเครื่องบินใช้งานทั่วไป 9 ที่นั่ง เครื่องยนต์ GASTURBINE แบบ TURBO PROP ยี่ห้อ PRATT & WHITNEY รุ่น PT 6 A – 41 กำลัง 850 แรงม้า จำนวน 2 เครื่องยนต์ความเร็วเดินทาง 240 KNOT พิสัยบิน 3,176 กม. (1,974 MILES) ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 2,121 ลิตร (544 GAL) / ทบ. 2,122 ลิตร ความสิ้นเปลือง สป. 3 ทบ. 450 ลิตร/ชม.สป. 3 ที่ใช้ น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน JP-8 / JET A-1

ทางด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานผลการตรวจวัดค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศเมื่อเช้าวันนี้ ตั้งแต่ เวลา 06.00 น. – 10.00 น. วัดค่าทัศนวิสัยได้ 2,000 เมตร ซึ่งค่าทัศนวิสัยดังกล่าว อยู่ในระดับต่ำและส่งผลกระทบต่อการบิน

จากรายงานของเครื่องตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ต.จองคำ อ.เมืองฯ จ.แม่ฮ่องสอน มีค่าฝุ่น PM 2.5 เท่ากับ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งคาดการณ์ว่า บริเวณพื้นที่ภาคเหนือจะมีสภาพอากาศปิด และพบจุดความร้อนจำนวนมาก เนื่องจากการเผาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมถึงการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นได้

ขณะเดียวกันสถานการณ์หมอกควันของเชียงใหม่เริ่มรุนแรงขึ้นพบการเผา110จุดในพื้นที่

สถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ช่วง 24 ชั่วโมงพบจุดฮอทสปอทจากการเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พุ่งสูงสุดของภาคเหนือ 110 จุด ขณะที่ค่ามลพิษ PM2.5 ของอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่องของการปรับเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ (2 มีนาคม 2565) เป็นต้นไป แม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนช้ากว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่สภาพปัญหาเรื่องของหมอกควัน และไฟป่าก็มาล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่พบว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีหมอกควันสะสมตัวในสภาพอากาศของภาคเหนือต่อเนื่อง หลายพื้นที่ทำให้ค่ามลพิษจากฝุ่นละออง และควันไฟเกินค่ามาตรฐาน ที่ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่แล้ว รายงานเช้านี้จาก กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ ของกองทัพภาคที่ 3 รายงานว่า พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือพบจุดฮอทสปอท หรือจุดความร้อนการเผาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมารวม 489 จุด แบ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ 125 จุด เขต สปก.35 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ 226 จุด พื้นที่ริมทาง 1 จุด พื้นที่การเกษตร 51 จุด ชุมชน และอื่นๆอีก 24 จุด โดยพบว่าที่จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนมากที่สุดของภาคเหนือมีทั้งสิ้น 110 จุดด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดพบในพื้นที่อนุรักษ์ เขต สปก.และป่าสงวนฯ

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ไฟป่า และการเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่เริ่มส่อเค้าว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง พบว่าเช้านี้ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีฟ้าหลัวจากสภาพของเมฆ และหมอกควันที่ปกคลุมหนาขึ้น โดยพบว่าในตัวเมืองเชียงใหม่แสงแดดยามเช้าจากดวงอาทิตย์เริ่มสอดส่องลงมาถึงพื้นได้น้อยลง ส่วนดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่เองก็เริ่มมีหมอกควันปกคลุมทำให้เห็นแนวเขาน้อยลง

ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่เช้านี้เมื่อเวลา 8 นาฬิกาพบว่า ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 116 AQI , ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 96 AQI , ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.สุเทพ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 124 AQI , ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ รพ.เทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม ค่า PM 2.5 ได้ 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 225 AQI , และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว วัดค่า PM 2.5 ได้ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 124 AQI