เผยคลิปวงจรปิดพร้อมเปิดใจพนักงาน ในคลิปไลน์แมนหัวร้อน

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 จากกรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Minijang MeenMz ได้โพสต์ข้อความ "เก่งว่ะ พฤติกรรมแบบนี้ ดูดีมากมั้ง ไรเดอร์แบบนี้แจ้งพฤติกรรมแย่ๆได้ที่ไหน เข้ามาบุกรุกในร้านตอนที่มีลูกค้าอยู่เยอะสะด้วย #ร้องเรียนได้ที่ไหน??? พร้อมแนบคลิปวีดีโอ นาทีชายหนุ่มไลน์แมนหัวร้อน เดินถือหมวกกันน๊อค บุกเข้าไปคลินิก พร้อมตะโกนถาม มึงเก๋าหรอ พร้อมท้าทายให้ออกมาเจอกันนอกร้าน ท่ามกลางความตื่นตกใจ แก่ลูกค้า ที่มาใช้บริการ ซึ่งหลังจากโพสต์ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเชิงตำหนิเป็นจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ เรนิต้า คลินิก ตั้งอยู่เลขที่ 54/18-19 หมู่ 2 ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พบกับ นายบูรินทร์ สีนารอด อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 33 หมู 2 อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พนักงานที่ไรเดอร์พูดท้าทาย พร้อมด้วย นางสาวสุภาภรณ์ พักกระโทก อายุ 25 ปี 241/1 อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา แฟนนายบูรินทร์ โดยทั้งคู่ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนเกิดเหตุ มีลูกค้าอยู่ภายในร้าน 5-6 คน ต่างพากันแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก และต่างหวาดกลัว ว่าชายก่อเหตุ จะพกอาวุธบุกเข้ามาด้วย จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายบูรินทร์ สีนารอด อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 33 หมู 2 อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พนักงานที่ไรเดอร์พูดท้าทาย เปิดใจว่า ตอนแรกชายก่อเหตุ ได้เปิดประตูเข้ามา ทั้งๆที่มีลูกค้านั่งอยู่ในร้าน 5-6 คน ทราบว่าเขามีการทะเลาะกับแฟน พอมาถึงก็เรียกหาแฟน แฟนกุอยู่ไหน ไปตามมาสิ ซึ่งแฟนเขาทำงานอยู่ที่นี่ แล้วสักพักมีพี่คนหนึ่ง บอกให้คนชื่อเอ็มไปเคลียร์ เลยทำให้ชายคนนี้ไม่พอใจ ท้าทายว่า มึงเก๋าหรอ และเขาก็เดินกลับไป ซึ่งพอต่อมา ตนเองก็เปิดประตูออกไป ถามว่าเป็นอะไร ที่นี่มันที่ทำงาน และหลังจากนั้นก็ตามในคลิปเลย มีการท้าทายตนเอง ซึ่งตนเองก็พยายามใจเย็น และเซฟลูกค้า เซฟที่ทำงานของตนเอง เพราะตอนนั้นลูกค้าก็ยังมีอยู่หลายคน ต่างพากันตกใจกันหมด

ด้าน นางสาวสุภาภรณ์ พักกระโทก อายุ 25 ปี 241/1 อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา แฟนนายบูรินทร์ สีนารอด อายุ 22 ปี เผยว่า ตอนนั้น ตนเองก็พยายามไปกันพี่ผู้ชายออกมา เพราะกลัวเกิดการปะทะกัน แล้วบอกให้พี่ผู้ชายที่ถูกด่า ให้ไปอยู่หลังร้าน ส่วนตัวเองกลับไปหน้าเคาร์เตอร์ แล้วไลน์แมนหัวร้อน ก็เปิดประตูเข้ามาอีก บอกว่า บอกแฟนด้วยนะ ว่าจะกลับมาอีก จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป แล้วตนก็โทรเรียกตำรวจ ตำรวจก็มาที่เกิดเหตุ สักพักเขาก็กลับมาอีก พร้อมเพื่อนผู้หญิงอีก2คน โดยตำรวจก็เรียกแฟนสาวของหนุ่มก่อเหตุ ให้ออกไปเคลียร์ที่หน้าร้าน ซึ่งถือเป็นปัญหาของทั้งคู่ จนได้ข้อยุติ ต่างแยกย้ายกันไป ส่วนแฟนสาวของผู้ก่อเหตุ ทางบริษัทฯจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยตอนเกิดเหตุ ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิง กลัวว่าเขาจะมีอาวุธ มีปืน มีมีด กลัวบุกเข้ามาทำร้ายกัน เพราะมีลูกค้าอยู่หลายราย