สังคม

แม่ร้อง ลูกถูกรถชนขาหัก คู่กรณีอ้างประกันล้ม ไม่รับผิดชอบ

โดย kanyapak_w

16 ก.พ. 2565

169 views

จากกรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Phimthananya Kaewmaipetch ได้โพสต์สอบถามและขอคำเเนะนำเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน แล้วผู้ที่ก่อเหตุไม่รับผิดชอบ ในโพสต์ระบุว่า


''​ใครพอที่จะให้คำเเนะนำหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน แล้วนคนผิดไม่รับผิดชอบ!!!! บ้างคะ



เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65 ช่วงเวลาประมาณ 12.00-13.00 ที่ผ่านมา ลูกชายของหนู อายุ 11 ขวบ ซึ่งกำลังเดินทางกลับจากโรงเรียน โดยนั่งโดยสารมากับรถพ่วงข้างรับจ้าง เกิดเหตุรถกระบะซึ่งขับมาด้วยความเร็วพุ่งชน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดเขาวัง อ.เมือง จ.ราชบุรี จนเป็นเหตุให้น้องกระดูกขาท่อนบนหัก งอผิดรูป ต้องเข้ารับการผ่าตัด ณ โรงพยาบาลราชบุรี



ตอนนี้หนูกังวล เครียดและมืดแปดด้าน เนื่องจากทางฝั่งคู่กรณีที่ชนน้องบอกปัด ไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจากการเบิกจ่ายของ พรบ.รถคันที่น้องนั่งไป 30,000.- ได้!!!



โดยอ้างว่า พรบ.รถยนต์ของตนที่ทำไว้กับบริษัทเอเชียซึ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้วนั้น ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดใดให้กับผู้ถือกรมธรรณ์ทั้งสิ้น #จึงขอให้ตัดสิทธิ์การรักษาของน้องไปเป็นของบัตรทอง30บาท โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ รพ.ได้แจ้งให้ทราบว่าการรักษาอาจไม่เต็มที่ในส่วนของยาบางตัวที่น้องจะต้องใช้นั้น สิทธิบัตรทองไม่รองรับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แจ้งว่าค่ารักษาในส่วนที่เกินมาทั้งหมด ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่ต่อมากลับปัดความรับผิดชอบให้ทางครอบครัวของเด็ก (ผู้เสียหาย)​ จัดการค่ารักษาส่วนที่เหลือทั้งหมด



เขาให้เหตุผลเขาว่า ''​เขาเองเป็นคนหาเช้ากินค่ำ และช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ไม่สามารถหาเงินมารับผิดชอบในส่วนนี้ได้''​ ถ้าจะยังไงก็ให้หนูไปฟ้องร้องเอาซึ่งทุกคนรู้ดีว่าการฟ้องร้องจะต้องมีค่าใช้จ่าย ทุกอย่างมีต้นทุน ไม่ว่าจะเรื่องของเงินทองและเวลา



หนูนำเรื่องปรึกษากับตำรวจร้อยเวรที่ดูแลคดี ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือหนูได้ บอกเพียงให้เข้ามาตกลงกัน และขออย่าให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะหากต้องดำเนินคดีก็เป็นได้แค่คดีเพ่ง หนูเองก็ไม่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมายมากมาย และต้องการเพียงให้คู่กรณีรับผิดชอบในส่วนค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนกว่าน้องจะหายดีเป็นปกติ #อย่างเหมาะสม ซึ่งในอนาคต หนูก็ไม่รู้ว่าลูกจะต้องผ่าเอาเหล็กออกมั๊ย เพราะหมอเเจ้งว่าถ้าเจ็บก็ต้องผ่าเอาเหล็กออก จากเด็กที่เคยวิ่งเล่นได้ ไปเรียนได้ปกติ ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อนาคตจะกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติมั๊ยก็ไม่มีใครรู้



คู่กรณีเองก็ไม่เเม้แต่จะถามสักคำว่าน้องอาการเป็นยังไงบ้าง สนใจเพียงแค่ว่าทำยังไงไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเอง หนูมีลูกแค่คนเดียว #และหนูต้องการให้ลูกได้รับการรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่อง



จึงขอความกรุณาใครที่เห็นโพสต์นี้แล้วสามารถให้คำปรึกษา หรือแนะนำได้ว่าหนูต้องทำอย่างไร ช่วยหนูด้วยนะคะ #เพราะหนูเองก็คนหาเช้ากินค่ำ จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาเงินมาจ่ายค่าทนาย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไหร่ รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ ????????????
สุดท้ายนี้ ขอให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนด้วย ขอบคุณค่ะ"



ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบ เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวที่ถูกชนวัย 11 ขวบ ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี พบขาซ้ายท่อนบนมีบาดแผลไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมี นส.สาริณี อินทร์ขำ อายุ 28 ปี เป็นพี่สาวของแม่เด็ก และ นส.ปรีชญา พรมมี ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งญาติๆ กำลังปรึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางช่วยเหลือ



ทางด้าน นส.สาริณี อินทร์ขำ กล่าวว่า รถจักยานยนต์พ่วงข้างรับนักเรียนถูกรถกะบะตัดหน้าทำให้ชนกันด้านเด็กกระเด็นออกมาขาท่อนบนหักเด็กขาหักต้องเข้ารับการผ่าตัดต้องใส่เหล็กดามเอาไว้ในเรื่องของรักษาพยาบาลก็ใช้ของรถพ่างข้างเป็นเงิน 30,000 บาท เมื่อหมดเงินก็จะใช้เงินจาก พรบ.ของรถกระบะ 50,000 บาทแต่มีปัญหา พรบ.ของรถทำกับบริษัทเอเชียถอนใบอนุญาติไปแล้ว



ทางเจ้าของรถก็ได้ตามไปที่ส่วนกลางให้เอาเอกสารไปยื่นประมาณการค่าใช้จ่าย จะได้หรือไม่ได้จะรอนานเท่าไหร่ จะได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะมีเรื่องอยู่หลายกรณีจึงทำให้คู่กรณีไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนต่างได้ จึงพักสิทธิ์การรักษาของเด็กไปเป็นบัตรทอง จึงโทรไปถามแม่เด็กไม่ยอมเพราะเคยยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างหากเบิก พรบ.ไม่ได้ยินดีที่จะรับผิดชอบเองแต่มาตัดความรับผิดชอบว่าไม่มีถ้าอยากได้ก็ต้องฟ้อง



ทางแม่เด็กก็ไปปรึกษาร้อยเวรก็ว่าอย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวให้จบกันที่มาไกล่เกลี่ยและอย่าไปเรียกเขาเยอะจึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันคืออะไรเด็กเจ็บขนาดนี้จะมาว่าอะไรเยอะและน้อยถ้าให้ตำรวจดำเนินคดีก็ได้เพียงคดีแพ่งจึงไม่เข้าใจว่าจะดำเนินการอย่างไร ต่อไปจะเรียกค่าเสียหายอย่างไรอะไรที่ว่าเยอะหรือน้อยก็อยากได้ความชัดเจนในวันพฤหัสจะมีการพูดคุยเรื่องจะเป็นเช่นไรก็ต้องดูกันไป



ส่วน นส.ปรีชญา พรมมี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ได้เข้ามาดูลูกบ้านสำหรับตัวน้องได้เกิดอุบัติเหตุบริษัทประกันก็ล้มไปแล้วผู้ใหญ่ก็อย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาร่วมกันดูแลเพราะว่าตรงนี้ไม่ทราบว่าจะไปเรียกร้องกับใครได้บ้างยังไงก็คงต้องฝากหน่ายงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแล



ล่าสุด เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กรายดังกล่าว ได้อัปเดตว่ามีคนเข้ามาบริจาคเงินแต่ตนไม่ต้องการ ต้องการความช่วยเหลือด้านทนายความเท่านั้น ระบุว่า "ไม่ขอรับบริจาคคะ???? ขอบคุณสื่อโชเชี่ยวที่เขามาติดต่อนะคะ ต้องการรับความช่วยเหลือของเรื่องคดีความของลูกคะ"

คุณอาจสนใจ

Related News