สังคม

มรดกเลือดน้องเขยวัย 58 แทงลุงวัย 60 ดับคางานศพแม่ยาย

โดย onjira_n

9 ก.พ. 2565

444 views

วันนี้ (9 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้อง ศปก.สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.บ้านเทื่อม พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ้านเทื่อม พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ฤทธิ์มหา สว.สส.สภ.บ้านเทื่อม พ.ต.ท.สุริยัน อินทร์สา สวป.สภ.บ้านเทื่อม ร่วมกันสอบปากคำ นายไว สมมี อายุ 58 ปี ชาวบ้านค้อ ม.7 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหา”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลมยาว 30 เซนติเมตร จำนวน 1 เล่ม เสื่อผ้าที่สวมใส่เปื้อนเลือดขณะก่อเหตุ 1 ชุด หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมจ้วงแทง นายสมหมาย โคตรมุงคุณ อายุ 60 ปี ชาวบ้านกุดเม็ก ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ พี่ชายภรรยาหรือลุงเสียชีวิตในงานศพของแม่ยายและแม่ผู้ตาย สภาพศพนั่งคอพับอยู่บนเก้าอี้ ภายในเต้นท์งานศพ บนถนนหน้าบ้านเลขที่ 107 ม.7 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี



ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สภ.บ้านเทื่อม รับแจ้งเหตุญาติทะเลาะวิวาทกัน ก่อนใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิตภายในงานศพ ในเต้นท์บนถนนหน้าบ้านเลข 107 บ้านค้อ ม.7 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จึงรายงาน พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.บ้านเทื่อม นำกำลังออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.บ้านผือ อาสากู้ภัยมูลนิธิสงเสริมธรรมแห่งอุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน (จุดบ้านผือ) ที่เกิดเหตุพบศพ นายสมหมาย โคตรมุงคุณ อายุ 60 ปี ชาว ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ นั่งคอพับเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้สีแดง จากการตรวจสอบสภาพศพ ถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณใต้ราวนมด้านขวา 1 แผล และบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล และข้อมือข้างขวาอีก 1 แผล ส่วนคนก่อเหตุไม่ใช่คนอื่นไกล คือนายไว สมมี อายุ 58 ปี ชาวบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ น้องเขยผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานปั่นกลับบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าเปื้อนเลือด รอมอบตัวกับตำรวจในบ้านพัก ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 300 เมตร ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเช้ามืดวันนี้ ก่อนควบคุมตัวและอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุมาสอบสวนปากคำที่โรงพัก



พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายไว สมมี ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ขณะเกิดเหตุพี่ชายภรรยาใช้เก้าอี้ฟาดที่ศีรษะตนก่อน 2 ครั้ง จนล้มลงที่พื้น จึงขี่จักรยานปั่นกลับบ้านไปเอามีดมาแทงผู้ตายด้วยความโมโห 2 ครั้ง และไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เสียชีวิต ยอมรับว่าเมาเหล้า และไม่รู้ว่าแทงไปที่ไหนบ้าง เพราะแว่นสายตาของตนหลุดไป จึงมองไม่ชัด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายบ่นและด่าเรื่องมรดกที่นาเหมือนทุกครั้ง ตนเองก็เดินไปเดินมาอยู่ภายในงาน จึงบอกผู้ตายไปว่าอย่าบ่นเยอะ อายชาวบ้านที่มาร่วมงาน ให้เสร็จงานศพแม่ก่อนค่อยมาคุยกัน

ทั้งที่ก่อนหน้านี้มรดกที่นาของครอบครัวได้แบ่งให้ทุกคนเท่ากันไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ได้คนละประมาณ 2 ไร่ แต่ผู้ตายได้ขายไปแล้ว พอพ่อและแม่เสียชีวิตก็ยังอยากได้ที่ดินส่วนของแม่และพ่ออีก และบ่นอยู่ตลอดว่ามรดกแม่ต้องได้ อยากกราบขอโทษครอบครัวญาติพี่น้อง ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเขา หากมีโอกาสก็อยากจะไปกราบขอโทษขมาศพผู้ตาย ถึงอย่างไรก็เป็นญาติกัน”



นางนุ่น จันทร์ดี อายุ 63 ปี ป้าคนตายและคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า เป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของญาติพี่น้อง ผู้ตายคือพี่ชายของภรรยาผู้ก่อเหตุ ที่มีศักดิ์เป็นน้องเขย ก่อนเกิดเหตุน้องเขยบอกให้ผู้ตายหยุดพูดเรื่องมรดกในงานศพแม่ และอยู่ในอาการเมาเหล้าทั้งสองคน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจลงมือทำร้ายร่างกายน้องเขยก่อน โดยใช้เก้าอี้ทุบที่ศีรษะและถีบน้องเขยจนตกเก้าอี้ น้องเขยเลยขี่จักยานปั่นกลับบ้านไปเอามีดมาแทงผู้ตายในงานศพแม่ยาย ก่อนผู้ตายจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ขาดใจตาย ญาติจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเช้ามืดวันนี้



ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการเถียงกัน เรื่องมรดกของครอบครัว คนตายโวยวายในงานศพแม่ว่า ไม่ได้มรดก ซึ่งน้องสาวและน้องเขยก็บอกจะแบ่งให้อยู่ หลังงานศพแม่เสร็จเรียบร้อย ให้หยุดพูดเพราะอายชายบ้านที่มาร่วมงาน และที่ผ่านมาทั้งสองก็ไม่ถูกกันอยู่แล้ว เพราะผู้ตายมีนิสัยอันธพาล มีเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว ส่วนคนที่มาร่วมงานศพและอยู่ในเหตุการณ์พูดให้ตนเองฟังว่า น้องเขยคงเหลือทนมานานแล้วในพฤติกรรมของผู้ตาย หลังทำแผนเสร็จหลานเขยก็มายกมือไหว้ขอโทษตนเอง โดยบอกว่า ผมอดทนไม่ได้จริงๆ และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”



นางนุ่น จันทร์ดี เปิดเผยต่อว่า ผู้ตายนอกจากจะอาละวาดหาเรื่องคนในครอบครัว ยังชอบไปอาละวาดชาวบ้านคนอื่นๆไปทั่ว ด่าคนนั้นคนนี้อยู่ตลอด แม้แต่แม่ตัวเองยังด่า ใครที่ไม่ชอบผู้ตายก็บอกว่าตายไปได้ก็ดี เพราะว่าสร้างแต่ปัญหา เมื่อ 4 เดือนก่อนระหว่างจัดงานศพพ่อผู้ตาย ก็อาละวาดในงาน จนถูกทำร้ายสลบไป เลยจับไปขังไว้รองานศพพ่อแล้วเสร็จจึงปล่อยตัวมา และเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ตายเคยก่อเหตุทะเลาะกับชาวบ้าน และจุดไฟเผาบ้านคู่กรณีถูกจับติดคุก 2 ปี แต่ก็ไม่เข็ดออกมายังหาเรื่องทะเลาะคนอื่นไปทั่ว อยากจะฝากไปถึงครอบครัวอื่นๆ หากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในครอบครัว ขอให้มีน้ำอดน้ำทน ขอให้มีสติในการพูดคุยกัน



ด้าน นางสาวประยงค์ ป้องเทพ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านค้อ เปิดเผยว่า ผู้ตายมีนิสัยเกเร หรือเป็นคนอันธพาล เวลาเมาเหล้าก็จะทะเลาะกับคนอื่นในหมู่บ้านไปทั่ว โดนตำรวจจับข้อหาทะเลาะวิวาทบ่อยมาก อยู่ระหว่างการรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชาวบ้านทั่วไปต่างบอกว่าคนนี้ตายไปน่าจะทำให้แผ่นดินสูงขึ้น ปมเรื่องที่ดินมรดกไม่รู้ว่าใช่ประเด็นนี้หรือไม่ แต่ที่ผ่านมาก็จะเห็นผู้ตายพูดเรื่องนี้อยู่เป็นประจำ อยากได้ที่ดินของพ่อแม่เชิงข่มขู่ญาติพี่น้องอยู่ตลอด สร้างความรำคาญให้พี่น้องเป็นประจำ เท่าที่ทราบผู้ตายได้ที่ดินบางส่วนแล้วแต่ก็ขายกินหมด ซึ่งเป็นญาติพี่น้องซื้อเอาไว้เอง



ในความคิดส่วนตัวไม่มีผู้ตายก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่หนักใจในการดูแลลูกบ้าน คงไม่เกิดเหตุวุ่นวายในหมู่บ้านอีก งานศพที่บ้านเป็นงานศพของแม่ผู้ตาย จัดมาตั้งแต่วันจันทร์ ผู้ตายเป็นลุกชายคนโต ก็มานอนเฝ้าที่งานทุกวัน จนทำให้เกิดเหตุขึ้น ผู้ตายมีอาการเมาเหล้าทุกวัน และด่าคนอื่นไปทั่ว รู้สึกสงสารผู้ก่อเหตุ เพราะเขาเป็นคนดี ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ผู้คนในหมู่บ้านรักใคร่ ไม่มีนิสัยโหดร้าย คงจะเหลืออดเหลือทนจนลงมือก่อเหตุขึ้น”



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลประวัติอาชญากรรม สภ.บ้านเทื่อม นอกจากผู้ตายจะเคยต้องโทษในคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นแล้ว (เผาบ้าน) ยังมีประวัติประพฤติตนวุ่นวายทะเลาะวิวาทนับครั้งไม่ถ้วน และมีประวัติเกี่ยงข้องกับยาเสพติดด้วย (ยาบ้า) และช่วงบ่ายวันนี้ญาติจะนำศพผู้ตายฌาปนกิจที่วัดในหมู่บ้านไปพร้อมกับศพของแม่ผู้ตาย




คุณอาจสนใจ

Related News