ครบรอบ 2 ปี เหตุกราดยิง 30 ศพ ครอบครัวทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2565) ที่บริเวณแท่นพระบรรจุเถ้ากระดูกผู้วายชนม์ ภายในวัดป่าศรัทธารวม อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรดาครอบครัว และญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตให้เหตุการณ์คนร้ายกราดยิง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้เดินทางมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งแม่ว่าเวลาจะผ่านไปนาน 2 ปีแล้วก็ตาม แต่ครอบครัวของผู้สูญเสียก็ยังคงทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ชายคนร้ายได้กราดยิงผู้บริสุทธิ์ภายในวัดป่าศรัทธารวม จำนวน 9 ราย และจากนั้นคนร้ายได้ไปก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นรวมจำนวน 30 ศพ



ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 899/48 หมู่บ้านศิริสุข 1 วิลเลจ ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของ นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย อายุ 28 ปี หนุ่มบิ๊กไบก์พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บที่ถูกกราดยิงที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช และถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส กระสุนปืนทำลายอวัยวะภายในบริเวณช่องท้อง และแขนเส้นเอ็นขาด นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานานหลายเดือน



ล่าสุดขณะนี้ อาการของน้องเนยฟื้นกลับมาเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว และครอบครัวได้ต่อเติมข้างบ้านเปิดร้านกาแฟให้น้องเนยขายอยู่ที่บ้าน ใช้ชื่อร้านว่า บักเนยคาเฟ่ โดยมีแฟนสาวของน้องเนย และน้องชาย ช่วยกันดูแลร้านกาแฟแห่งนี้ โดยภายในร้านได้ตกแต่งบรรยากาศแบบน่ารัก มีมุมนั่งจิบกาแฟใต้ต้นไม้นอกร้าน และภายในร้านมีชั้นวางขายเบเกอรี่ ขนมบราวนี่ และคอนเฟลก ที่น้องเนยกับแฟนสาวทำขึ้นมาขายเอง ส่วนเครื่องดื่ม นอกจากจะมีกาแฟสดแล้ว ยังมีน้ำผลไม้ น้ำชาเขียว และนมสดด้วย ซึ่งขายในราคาถูกมาก เพียงแก้วละ 25 บาทเท่านั้น

นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย กล่าวว่า แม้จะผ่านพ้นช่วงเหตุการณ์กราดยิงมาได้ถึง 2 ปีแล้วก็ตาม ภาพเหล่านั้นก็ยังติดตามาจนถึงทุกวันนี้ แต่ตนเองได้รับกำลังใจดีจากพ่อ แม่ และแฟนสาว ทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้เกือบเหมือนคนปกติทุกอย่างแล้ว แต่ตนก็ยังต้องไปให้แพทย์ตรวจไตที่ยังออกมาอยู่ภายนอกท้องทุก 6 เดือน

น.ส.อนุสรา แซ่จิว หรือน้องบี แฟนสาวกล่าวว่า ตนเองได้มาคบกับน้องเนยเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งมีความประทับใจว่าเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก แม้ว่าจะถูกอาวุธสงครามยิงจนอาการสาหัส แต่ก็ยังอดทนอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จนมีคนเข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงจะเสียชีวิตไปแล้ว และหลังจากออกมากจากโรงพยาบาลแล้ว ก็เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานนับปี แต่ก็พยายามทำกายภาพบัดบัดจนร่างกายฟื้นสามารถใช้ชีวิตเกือบเหมือนคนปกติได้ราวกับปาฏิหาริย์ ซึ่งตนเองก็พยายามให้กำลังใจแฟนมาโดยตลอดว่า อย่าไปกังวลใจมาก โดยตนเองนับถือศาสนาคริสต์ ก็จะมีความเชื่อในพระเจ้า จึงพาแฟนไปเข้าโบสถ์เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้หายป่วย พร้อมกับบอกว่า ถ้าเรามีความเชื่อว่าจะหาย ทุกอย่างก็จะหายดีตามความเชื่อแน่นอน