สังคม

ครูโรงเรียนดังขอโทษ ปมลงโทษ นร.ไม่ใส่ซับใน ให้ นร.ชายรุมจ้องหน้าอก

โดย panisa_p

8 ก.พ. 2565

5.4K views

จากกรณีประเด็นดรามา หลังโลกออนไลน์มาแฉพฤติกรรมของครูประจำชั้นโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุผ่านแฮชแท็กว่าเป็น #โรงเรียนประจำจังหวัดสีเหลืองแดง โดยเนื้อหาระบุว่า โรงเรียนแห่งนี้ ได้มีการทำโทษนักเรียนหญิงที่ไม่ใส่เสื้อซับในมาโรงเรียน ด้วยการให้นักเรียนชายมายืนมองหน้าอกของนักเรียนหญิง และที่น่าตกใจคือ ครูที่ใช้วิธีการดังกล่าวทำโทษนักเรียนนั้น เป็นครูผู้หญิงอีกด้วย


ซึ่งเรียกได้ว่า วิธีการดังกล่าวนี้ จัดว่าเข้าข่ายการคุกคามทางเพศ จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของครูรายนี้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พบว่านอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังมีคนออกมาตีแผ่ปัญหาเกี่ยวกับประเด็นการคุกคามนักเรียนหญิงอื่น ๆ ผ่านแฮชแท็ก #โรงเรียนประจำจังหวัดสีเหลืองแดง ทั้งเรื่องที่ครูผู้ชายส่งข้อความคุกคามทางเพศนักเรียนหญิง รวมถึงเรื่องที่มีรุ่นพี่แอบถ่ายคนเข้าห้องน้ำหญิงอีกด้วย


และหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ โดยออกมาตั้งคำถามและแสดงทัศนะในมุมมองของตัวเองว่า ฝากแชร์โพสต์หน่อยค่ะ ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องที่โรงเรียนแล้ว ตั้งแต่เคสรอบนั้น แต่เรื่องนี้มันไม่ไหวจริง ๆ ขอซักทีเถอะ เขารณรงค์ sexual harassment กันแทบตาย แต่ครูกลายเป็นบ่อเกิดของปัญหานี้ในโรงเรียนเอง


1) นักเรียนหญิงไม่ใส่เสื้อซับมา ความผิดคืออะไร ? แต่งกายผิดระเบียบ ? เอาสิทธิข้อไหนมาลงโทษ 2) การลงโทษโดยการให้นักเรียนชายมาจ้องหน้าอกของนักเรียนหญิง ถือเป็นวิธีการลงโทษที่ดีและเหมาะสมแล้วแน่ใช่ไหม? 3) การกระทำแบบนี้ของครู ผิดจรรยาบรรณต่อผู้รับบริการไหม เพราะ มันทำให้นักเรียนอับอายมาก


4) ครูขอโทษแล้ว ขอโทษแล้วยังไงต่อ แล้วนักเรียนที่อับอายไปแล้ว การที่โดนมองหน้าอกไปแล้ว และโดนนินทาไปแล้ว ความรู้สึกของเด็ก ครูจะเอาคืนมายังไง จะชดใช้ยังไง 5) เคสนี้ ผู้บริหารจะจัดการยังไง จะลงโทษครู และเยียวยานักเรียนยังไง อันนี้แหละที่อยากถาม หรือจะปล่อยให้ข่าวเงียบไปอีก


ก่อนระบุทิ้งท้ายว่า เป็นครู ทำอะไรผ่านการคิดและไตร่ตรองซักนิด สิ่งที่คุณคิดว่ามันสมควรทำ มันส่งผลระยะยาวต่อผู้เรียน คุณอาจจะคิดว่า ไม่เห็นเป็นไร แต่ self-esteemed ของเด็กคนนึงจะเปลี่ยนไปตลอด สิ่งที่คุณทำ มันจะกลายเป็นแผลในใจของเด็กไปตลอด แล้วก็อย่าปล่อยให้เรื่องเงียบนะคะ เรื่องแบบนี้ควรได้รับการแก้ไขค่ะ #โรงเรียนประจำจังหวัดสีเหลืองแดง


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากหนึ่งในผู้ปกครอง ที่อยู่ในกลุ่มแชตนักเรียน ได้มีการบันทึกข้อความในแชตที่พบว่า มีครูรายหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นครูที่ปรึกษา ได้ทำการเขียนชื่อนักเรียน 4 คน ลงในกระดาษ ก่อนระบุว่าให้ผู้ปกครองของนักเรียนที่มีรายชื่อดังกล่าวติดต่อกับทางครูรายนี้


โดยต่อมาทางผู้ปกครองของนักเรียนในรายชื่อ ได้ออกมาระบุว่า รู้สึกไม่พอใจกับวิธีการลงโทษนักเรียนแบบนี้ โดยมีการตั้งคำถามกับครูรายนี้ว่า ทำแบบนี้เด็กจะไม่อับอายหรือ ขอแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาช่วยเคารพ สิทธิมนุษยชน และการคุกคามทางเพศด้วย เพราะการกระทำที่อาจารย์ทำกับนักเรียนไม่สมควร


เข้าใจว่าทำผิด แต่ควรจะกล่าวให้ปรับปรุง ไม่ใช่ให้เรียกกลุ่มผู้ชายมายืนมองหน้าอก ถ้ามีครั้งหน้าอีกขออนุญาตให้น้องอัดคลิปวิดีโอทุกครั้ง ซึ่งพบว่าทางครูรายนี้ ได้ตอบกลับผู้ปกครองผ่านแชตกลุ่มไปว่า "ขอโทษผู้ปกครองด้วยนะคะ และครูก็ได้ขอโทษนักเรียนไปแล้ว คุยกับนักเรียนแล้ว ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ"


ด้าน นางพยุง แจ้งใบ อายุ 52 ปี ผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกครูทำโทษดังกล่าว ระบุว่า ตนเองมาทราบเรื่องหลังจากที่ลูกสาวนั้นกลับมาจากโรงเรียนตอนเย็น โดยลูกสาวนั้นเล่าให้ฟังว่า ครูทำโทษด้วยวิธีดังกล่าวจริง และต่อมาทางผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะผู้บริหาร รวมถึงครูที่ทำโทษเด็กนักเรียนดังกล่าว ก็ได้เดินทางมาที่บ้านเข้ามาขอโทษตนเองกับลูกสาว


ซึ่งตนเองก็ได้บอกกับครูไปว่า อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เรื่องนี้ครูสร้างขึ้นมาเองครูก็ต้องรับผิดชอบแก้ไขเอาเอง เพราะวิธีลงโทษเด็กนักเรียน มีตั้งหลายวิธี และถ้าเป็นลูกสาวของครูโดนทำแบบนี้บ้างครูจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งก็ยังได้บอกกับครูไปอีกด้วยว่า ที่มีข่าวนักเรียนผูกคอตาย กระโดดน้ำตาย ก็อาจจะเป็นเพราะว่าคุณครูกระทำกับเด็กเกินกว่าเหตุ จนทำให้เด็กนั้นเสียใจหรือเสียความรู้สึกเกินกว่าที่จะรับได้


ด้านสภาพจิตใจของลูกสาวนั้น ตอนนี้ก็ค่อนข้างปกติแต่ก็ไม่รู้ว่าลึก ๆ แล้วในใจลูกสาวนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกมาพบหรือให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างไร โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อพบกับผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะผู้บริหาร


นายประเสริฐ สุวรรณชัยเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า หลังทราบเรื่องดังกล่าว ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการลงพื้นที่ ขอโทษและพูดคุยชี้แจงเรื่องดังกล่าวกับทางผู้ปกครองและนักเรียนทุกรายแล้ว ส่วนทางด้านครูต้นเรื่องนั้น ทางโรงเรียนก็ได้กล่าวตักเตือนและชี้แนะให้ปรับวิธีการทำโทษเด็กนักเรียนแล้ว ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวนั้นจะได้เข้าที่ประชุมปรึกษาหารือ เพื่อจะดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน


โดยในส่วนนี้อาจจะเป็นการสื่อสารของทางครูและนักเรียนที่อาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน โดยเบื้องต้นก็ได้เข้าไปขอโทษทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง ในส่วนที่เกิดการไม่เข้าใจกัน ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครองในบางส่วน ซึ่งทางโรงเรียนก็จะนำไปดำเนินการแก้ไขต่อไป


ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงนั้น ทางโรงเรียนจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงเป็นลำดับต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ถ้าข้อเท็จจริงออกมาในรูปแบบใดก็จะดำเนินการตามกฎระเบียบของข้าราชการครูในทางวินัยอีกด้วย

คุณอาจสนใจ