สังคม

ถูกหลอกซื้อวอชเชอร์ที่พักโรงแรม กว่า 40 ราย หลังแจ้งความไปแล้ว แต่คดีไม่คืบ

โดย sitanan_k

4 ก.พ. 2565

262 views

ผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อวอชเชอร์ที่พักโรงแรม 4-5 ดาวกว่า 40 คน เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีกับผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 หลังมีการแจ้งความตำรวจท้องที่ไปแล้ว และกรอกแบบฟอร์มร้องทุกข์ของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า หรือไม่มีแนวทางชัดเจน







นางสาวณัฐฐิรา ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า กลุ่มผู้เสียหายได้ซื้อวอชเชอร์โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5 ดาวผ่านทางไลน์ออฟฟิเชียล "Get together co.,Ltd" ซึ่งเป็นบริษัทตัวกลางในการจองห้องพักโรงแรมต่างๆ โดยทางบริษัทก็จะออกโปรโมชั่นจองห้องพักราคาถูกมาเรื่อยๆ เช่นที่พักโรงแรม 5 ดาวคืนละไม่เกิน 3000 บาท , โปรโมชั่น 1 แถม 1 และวอชเชอร์มีอายุ 2 ปี ทำให้ผู้เสียหายซื้อเก็บไว้จำนวนมาก บางรายซื้อเก็บไปรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท แต่เมื่อจะไปใช้บริการเข้าพักจริง กลับไม่สามารถเข้าพักได้ หรือถูกยกเลิกการจองห้องพัก ซึ่งมาทราบว่าทางบริษัทดังกล่าวไม่จ่ายเงินให้กับโรงแรม ต่อมาวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 บริษัทก็แจ้งทางไลน์ว่าขอยกเลิกการจองห้องพักทั้งหมด ก่อนประกาศปิดกิจการชั่วคราวช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 1-4 พฤศจิกายน บริษัทยังเทขายวอชเชอร์ด้วยโปรโมชั่นราคาถูกอยู่ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะยกเลิกการจอง แสดงเจตนาฉ้อโกงชัดเจน ซึ่งขณะนี้น่าจะมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 800 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท







เมื่อติดต่อไปทางบริษัท ทางบริษัทก็สร้างกลุ่มไลน์ขั้นมาเพื่อประณีประนอม สำหรับยอดความเสียหายหลักพัน จะผ่อนชำระ 3 ปี และยอดความเสียหายหลักหมื่น จะผ่อนชำระ 5 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานมาก หรือแม้แต่การเสนอให้ผู้เสียหายเข้าพักที่โรงแรมตัวเองที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหักหนี้ ซึ่งไม่ตรงตามความต้องการ เพราะไม่ใช่โรงแรมระดับ 4-5 ดาวตามที่ตกลงไว้ เมื่อผู้เสียหายไม่ตกลง ก็จะเตะออกจากกลุ่มไลน์ และมีการข่มขู่ทางโรงแรมไม่ให้เปิดเผยข้อมูลให้กับทางผู้เสียหายด้วย



ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเคยไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่แล้ว แต่หลายแห่งไม่รับแจ้งความ และไม่ดำเนินการต่อให้ ดังนั้นจึงตัดสินใจมาสอบถามความคืบหน้ากับตำรวจไซเบอร์ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี



ด้านพลตำรวจตรีกานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ระบุว่า ตำรวจไซเบอร์รับเรื่องมาช่วงปลายปี 2564 และตั้งแต่ต้นปีมาก็ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ แต่ต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้รอบด้านรัดกุม เบื้องต้นวันนี้ก็ได้รับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายไว้ และจะตรวจสอบพยานหลักฐานของผู้เสียหาย พร้อมนัดสอบปากคำ ส่วนผู้เสียหายรายใดที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกมาแจ้งความที่ สอท. ก็สามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ได้ ซึ่งหากเกิดปัญหาติดขัดประการใด ให้ประสานมาที่ตำรวจไซเบอร์ ทางตำรวจไซเบอร์จะช่วยประสานตำรวจท้องที่ให้ ส่วนบริษัทคู่กรณีตำรวจก็มีการตรวจสอบไปแล้วบางส่วน เบื้องต้นพบว่าเปิดบริษัมถูกต้อง แต่ในข้อมูลสืบสวนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด พร้อมฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อดูเพียงราคาถูกอย่างเดียว ต้องตรวจสอบชื่อบริษัท บัญชีธนาคารต่างๆ ว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ก่อนด้วย เพื่อป้งกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

คุณอาจสนใจ

Related News