ก.ศึกษาฯ มั่นใจ พร้อมรับสถานการณ์เปิดเรียน On-Site

กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงเน้นย้ำความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ในการกลับมาเปิดเรียนแบบ on-site ได้อย่างปลอดภัย

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนให้รับกับสถานการณ์ เพื่อให้นักเรียนไม่ขาดการเรียนรู้ แต่ถึงอย่างไรการเรียนแบบ on-site พบว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่ผ่านมาจึงได้ประสานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของการเร่งฉีดวัคซีนให้กับครู บุคลากร รวมถึงนักเรียนในช่วงวัยต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยให้กลับมาเปิดเรียนได้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พบว่า มีหลายโรงเรียนได้กลับมาเปิดเรียนแล้ว หลังผ่านการประเมินและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านสาธารณสุข

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า เบื้องต้นจากข้อมูลใน 40 จังหวัดที่ได้รับรายงานมา มีโรงเรียนที่เปิดเรียน on-site แล้วเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 80 และยังคงทยอยเปิดกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนเข็ม 1 เกือบครบทั้งหมดแล้ว ส่วนเข็มที่ 2 มากกว่าร้อยละ 70 ทั้งนี้แม้จะกลับมาเปิดเรียนแบบ on-site ได้แล้ว แต่ไม่ได้บังคับว่าทุกคนจะต้องมาเรียนที่โรงเรียน หากผู้ปกครองหรือนักเรียนบางคนที่ไม่มั่นใจ ยังสามารถเรียนแบบออนไลน์ต่อไปได้  สอดคล้องกับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทุกคนเห็นตรงกันว่าการกลับมาเปิดเรียนแบบ on-site เป็นรูปแบบที่ดีที่สุด ไทยและทั่วโลกเผชิญกับการระบาดมามากกว่า 2 ปี มีข้อมูล มีประสบการณ์ และระบบสาธารณสุขที่พร้อมรองรับ อีกทั้งในอนาคตมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป สิ่งที่อยากสะท้อน คือ การติดเชื้อในเด็ก ไม่ค่อยมีความน่ากังวล เพราะอาการไม่รุนแรง ที่น่ากังวลกว่า คือ เด็กจะนำเชื้อกลับไปติดคนในครอบครัว แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้ตระหนก หลายครั้งเมื่อพบเด็กติดเชื้อ 1 คน ก็เลือกที่จะให้ปิดสถานศึกษาครอบคลุมทั้งหวัด หากเป็นเช่นนี้การอยู่ร่วมกับสถานการณ์หรือใช้ชีวิตคงเดินต่อไปได้ยาก ดังนั้นจึงอยากให้เชื่อมั่นในมาตรการและแผนเผชิญเหตุที่ได้กำหนดไว้

สำหรับเรื่องของวัคซีน ขณะนี้นอกจากวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะทยอยส่งมอบสัปดาห์ละ 3-5 แสนโดส ยังมีวัคซีนชนิดเชื้อตายหรือซิโนแวคที่อยู่ระหว่างพิจารณาจาก อย. ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้ปกครอง

นอกจากนี้สิ่งที่อยากเน้นย้ำเรื่องการเปิดเรียนแบบ On-Site โรงเรียนต้องคัดกรองอย่างเข้มงวด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของอุณหภูมิหรือมีไข้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคัดกรองเรื่องของอาการ หากพบว่ามีน้ำมูก ไอ จาม ควรให้หยุดเรียน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

ด้านนายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนันท์ นายกสมาคมโรคติดต่อเชื้อเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้กับเด็กเป็นเรื่องสำคัญ ข้อดีที่เห็นได้ชัด คือ ช่วยลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิตได้ // ช่วยป้องกันภาวะโรคแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดตามมา รวมถึงช่วยลดอาการ Long COVID ได้

ส่วนเรื่องการกลับมาเปิดเรียนแบบ on-site ยังเชื่อว่าสามารถทำได้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กโต เพราะส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน และเป็นช่วงวัยที่พร้อมในการดูแลตัวเอง ส่วนเด็กเล็กอาจจะต้องรอไปก่อน แต่ถึงอย่างไรหากจะยังคงรูปแบบออนไลน์ไว้ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะใกล้จะสิ้นปีการศีกษาแล้ว