สังคม

ชาวบ้านโวยไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ อบต.จ่ายเงินต่ำสุด 40 บาท แชทลับหลุด อาจมีอมเงิน

โดย thichaphat_d

24 ธ.ค. 2564

325 views

จากกรณี เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้เคมีคอลจำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2564


เหตุการณ์วันนั้น สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านที่อาศัยใกล้เคียง และบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก เพราะแรงระเบิด และกลุ่มควันส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยใกล้เคียง


ช่วงนั้น ทางอบต.ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งเต๊นท์รับเรื่องร้องเรียนและให้ความช่วยเหลือประชาชน


ผ่านมา 5 เดือน มีเอกสารประกาศรายชื่อการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่ราคา หลักหมื่น ถึงหลักสิบ สูงสุด อยู่ที่ 49,000 บาท และที่น่าแปลก และเป็นข้อสงสัยคือบ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 15 ได้รับเงินเยียวยาต่ำสุด จำนวน 40 บาท


ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว สอบถาม คุณไพโรจน์ พุ่มภักดี เล่าว่า บ้านของตนอยู่ห่างจากโรงงานหมิงตี้ในรัศมี 5 กิโลเมตร บ้านปลูกสร้างเป็นครึ่งไม้ครึ่งปูน มีสมาชิกที่อาศัยอยู่ 12 ชีวิต วันเกิดเหตุ เกิดเสียงระเบิดและแรงสั่น ทำให้บ้านชั้นล่าง บานเกล็ดแตก 2 แผ่น และที่ห้องนอน ชั้นล่างกระจกหน้าต่างร้าว 2 บาน จำนวน 4 แผ่น


ตอนนั้นตนไม่ได้สำรวจความเสียหายอื่นๆ เพราะต้องรีบพาครอบครัวอพยพ ไปอาศัยอยู่ที่โรงแรมคืนละ 2,000 บาท จำนวน 2 คืน รวมเป็นเงิน 4,000 บาท เมื่ออนุญาตให้กลับเข้าบ้าน จึงสำรวจความเสียหาย และได้ซ่อมแซมกระจกห้องนอนที่ร้าว และบานเกล็ดที่แตก  


โดยช่างคิดค่าแรง และค่าอุปกรณ์เป็นเงิน 24,000 บาท ต่อมา ประมาณ 1 สัปดาห์ทางองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ ได้ตั้งโต๊ะที่วัดกิ่งแก้วให้นำเอกสารหลักฐานไปยื่นสำรวจความเสียหาย จึงนำภาพถ่าย บัญชีธนาคาร และเอกสารต่างๆ ไปยื่น


และตั้งแต่เกิดเรื่องไป ก็หายเงียบไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนโรงงานหรือบุคคลใดเข้ามาตรวจสอบหรือขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งมารู้ว่า ตนได้รับเงินเยียวยา 40 บาท รู้สึกตกใจว่า คืออะไร เงินเท่านี้ ทางอบต.เอาหลักเกณฑ์อะไรพิจารณา


ความรู้สึกเหมือนกับทางราชการดูถูกประชาชน  เงินเท่านี้จะเอามาซ่อมอะไรได้ เงินจำนวน 40 บาท  กินก๋วยเตี๋ยวได้ 1 ชาม ไม่รู้ว่า ทางอบต. เอาอะไรพิจารณา ตนไม่ขอรับเงินนี้ และอยากให้ทางอำเภอ และผู้ว่าฯ พิจารณาใหม่ เพราะนี่คือความเดือดร้อนของประชาชน

ซึ่งกรณีบ้านคุณไพโรจน์ แยกเป็นสองส่วน  ส่วนแรก บานเกล็ดแตก 2 แผ่น และร้าว ส่วนที่สองกระจกหน้าต่างห้องนอนนั้น เป็นรอยร้าว 2 บาน มีกระจก 4 แผ่น รวมทั้งหมดป็นเงิน 24,000 บาท


นอกจากนี้มีเสียงวิพากย์วิจารณ์ว่า การซ่อมกระจกห้องนอนของคุณไพโรจน์ ราคาสูงเกินไปหรือไม่ เพราะราคากระจกหน้าต่าง 2 บาน ราคาจริงไม่น่าจะถึง 24,000 บาท


เรื่องนี้คุณไพโรจน์ชี้แจงว่า ราคานี้ตนจ่ายให้ช่างจริง ไม่ได้มีการโก่งราคา สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่แค่กระจกเท่านั้น ค่าช่าง และกรอบกระจกอีก


ซึ่งกรณีที่อำเภอชี้แจงว่า ที่จ่าย 40 บาท เพราะได้รับเอกสารความเสียหาย บานเกล็ด 2 บาน แผ่นละ 20 บาท จำนวน 2 แผ่น จึงได้เงิน 40 บาท ตนก็ไม่รู้ว่าเอกสาร กระจกห้องนอนที่แตก หายไปไหน และตอนนี้ก็ไม่มีกับตัวเพราะให้เจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว


นอกจากค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการอพยพ ต้องไปอาศัยโรงแรม ก็ไม่ได้รับเงินเยียวยาเช่นกัน ตนไม่เข้าใจว่า ชาวบ้านเดือดร้อนจากการโรงงานขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ดูแล และอยากรู้ อบต.และอำเภอ ใช้หลักเกณฑ์ใด อยากขอให้พิจารณาใหม่ ให้นีกถึงความเดือดร้อนของประชาชน


ทางด้านนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ยืนยันว่า การพิจารณาดังกล่าวเป็นคณะกรรมการที่อำเภอแต่งตั้ง ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประกอบไปด้วย ตัวแทนของ อบต. ตัวแทนของโยธาธิการจังหวัด ตัวแทนของพาณิชย์จังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้านและปลัดอำเภอร่วมตรวจสอบพิจารณาความเสียหาย


สำหรับกรณีบ้านคุณไพโรจน์ ที่ได้รับเงิน 40 บาท  ตนก็ได้สอบถามรายละเอียด ซึ่งทางคณะอนุกรรมการ ยืนยันว่าได้ไปตรวจสอบแล้ว ว่าบ้านหลังดังกล่าวมีความเสียหายเป็นบานเกร็ด 2 แผ่น และทางพาณิชย์จังหวัด จึงประเมินราคาท้องตลาด แผ่นละ 20 บาท รวมเป็นเงิน 40 บาท ซึ่งการช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าว จะไม่รวมค่าแรงหรือค่าช่าง แต่เป็นเพียงค่าของเท่านั้น


และอีกส่วนหนึ่งได้ส่งข้อมูลการเยียวยาให้กับบริษัทหมิงตี้ประกอบการพิจารณา เพื่อพิจารณาการช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่รวมกับที่ทางราชการช่วยเหลือ


สำหรับผู้ที่ไม่พอใจจำนวนเงินเยียวยาก็มีคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบรับการอุทธรณ์พิจารณาอีกครั้งว่ามีอะไรตกหล่น หรือมีงบประมาณส่วนใดสามารถมาเยียวยาเพิ่มเติมได้ โดยสามารถมาที่อำเภอบางพลีได้เลยเนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการจ่ายเงิน จะโอนเงินเข้าในช่วงสัปดาห์หน้า


นอกจากนี้ ทีมข่าวไปสำรวจร้านขายวัสดุก่อสร้าง และร้านกระจกที่รับทำบานเกล็ดให้ข้อมูลว่า ราคาขายเกล็ดขนาด กว้าง 11 ซม. // ยาว 68 ซม. ขนาดเท่ากับของบ้านคุณไพโรจน์ ราคาแผ่นละ 30 บาท หากจะซื้อในราคา 20 บาท ต้องเป็นการซื้อจำนวนมากเท่านั้น และเป็นกระจกที่ยังไม่ตัด ดังนั้นตามร้านตัดกระจกทั่วไปที่ชาวบ้านมาซื้อไปซ่อมบ้าน ก็จะอยู่ที่แผ่นละ 30 บาท 2 แผ่นก็ 60 บาท


นอกจากกรณีของคุณไพโรจน์ได้เงินเยียวยา 40 บาทแล้ว เรายังพบว่า มีบ้านของคุณบังอร จรเสถียร บ้านเลขที่40/16 หมู่4 ซอย กิ่งแก้ว 34 ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 180 บาท


คุณบังอรเปิดใจว่า พูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าตัวเองได้เงินเยียวยา 180 บาท ทั้งที่บ้านตนเอง ประตูไม้สัก เสียหายจากแรงระเบิด ทำให้ปิดประตูไม่ได้ กระจกร้าว


วันเกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดก็ตกใจประตูบ้านที่เป็นไม้สัก ก็พังเปิดออก มีรอยร้าวที่วงกบ กระจกแตก ประตูปิดไม่ได้  


เมื่อทางอบต.บอกให้ไปลงชื่อร้องเรียนความเสียหาย เดินทางไป 3 วัน เมื่อแจ้งรายละเอียดความเสียหายกับเจ้าหน้าที่แแล้ว ก็มีช่างของ อบต. อยู่เต้นท์ใกล้ๆกันให้คำปรึกษา และบอกว่าบ้านของตน ค่าซ่อมประมาณ 10,000 บาท หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครติดต่อมา ทั้งทางบริษัท หมิงตี้ และทางอบต. จนกระทั่งมารู้ว่า ได้รับเงินเยียวยา 180 บาท


ยอมรับว่า งง และพูดไม่ออกว่า ทำไมถึงได้แค่นี้ ซึ่งได้ปรึกษากับลูกแล้ว จะไม่ขอรับเงินส่วนนี้และจะไปยื่นเรื่องสอบถามนายอำเภอ อยากรู้รายละเอียดว่า ใช้หลักเกณฑ์อะไรพิจารณา


กรณีการจ่ายเยียวยานั้น พบว่ามีประชาชนหลายราย ที่ลงรายชื่อ เรียกร้องค่าเสียหาย แต่พอประกาศชื่อ ไม่มีรายชื่อได้รับเงินเยียวยา ทั้งที่ไปยื่นเอกสารหลักฐานความเสียหาย ระหว่างทีมข่าวลงพื้นที่ ก็มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียน นำเอกสารหางบัตร ที่ทางอบต.รับเรื่องร้องเรียนไป แต่ก็หาย ไร้การดูแลและเยียวยา


นอกจากนี้ ยังมีบางบ้านที่เป็น อาคารพาณิชย์ ปลูกต่อกัน 3 ห้อง แต่กลับได้รับเงินเยียวยาต่างกัน ทั้งที่ห้องที่เสียหายเยอะได้รับเงินน้อย


คุณสมฤทัย เปิดเผยว่า บ้านของตนเป็นห้องแถว 3 ห้องติดต่อกัน ได้รับความเสียหาย ห้องครัว และหลังคาพังหมด ส่วนตึกข้างๆ ห้องนอนหลานชาย พัง และอีกห้องก็เสียหายเช่นกัน แต่ได้เงินเยียวยาไม่เท่ากัน ห้องที่เสียหายมากได้เยียวยา 575 บาท อีกหลัง 994 บาท และ 1,774 บาท


ซึ่งก่อนหน้านี้ ไปเจรจาค่าเสียกับบริษัทหมิงตี่เรียกค่าเสียหาย 3 ห้อง จำนวน  1 แสน 9 หมื่นบาท  แต่ทางบริษัทหมิงตี้ให้มา 35,000 บาท โดยให้เหตุผลว่า บ้านของตน เก่าแล้ว และมีรอยร้าวอยู่แล้ว หากอยากได้มากกว่านี้ ก็ต้องไปเรียกร้องเอง  


ไม่ใช่แค่ค่าเสียหายของบ้าน แต่ยังมีค่าแพทย์ที่ต้องไปรักษาระบบทางเดินทางใจ เพราะสูดดมสารเคมีเข้าไป ช่วงนั้นได้แต่ทำใจและหาเงินมาซ่อมแซมบ้านเพื่ออยู่อาศัย


ทั้งนี้มีผู้ที่ยื่นขอเยียวยาประมาณ 2,900 ราย และได้รับการพิจารณาประมาณ 1,500 ราย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ที่สูญเสียโอกาสจากการประกอบอาชีพ ก็จะมีการพิจารณาว่าจะมีส่วนใดที่สามารถเยียวยาได้หรือไม่


ขณะที่ เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 โพสต์ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการเยียวยาจากเหตุไฟไหม้ดังกล่าว ที่น่าตกใจคือ มีผู้ได้รับการเยียวยาต่ำสุด 40 บาท และส่วนใหญ่ได้รับการเยียวยาอยู่ที่หลักร้อย หลักพัน และสูงสุดคือ 49,500 บาท


และสังเกตว่าบางรายที่มีนามสกุลเดียวกับนายก อบต. ได้เงินเยียวยา 49,500 บาท ทำให้ผู้คนต่างเกิดความสงสัย ซึ่งต่อมาทาง อบต.ราชาเทวะ ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป


ทั้งนี้ เมื่อดูข้อความแชตที่สนทนากันนั้น พบว่ามีการมีการวิจารณ์การทำงานของ อบต. ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่างบประมาณไม่พอ ต้องของบเพิ่ม แต่กลับจ่ายเยียวยาแค่หลักร้อย - หลักพัน คนได้หลักหมื่นน้อยมาก ของบมาแล้วเหลือแบบนี้ อุ๊บอิ๊บหรือไม่ แค่ 40 บาท ไม่ต้องเยียวยาดีกว่าไหม



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WcG3L7nIvnk

คุณอาจสนใจ

Related News