สังคม

'คุณนายดาว' ไม่รอด! ถูกจับคาสตูดิโอช่อง 3 หลังตุ๋นเหยื่อลงทุนทำธุรกิจ อ้างสนิทบิ๊กป้อม-ธรรมนัส

โดย thichaphat_d

23 ธ.ค. 2564

925 views

จากกรณีกลุ่มผู้เสียหาย ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ เข้าร้องเรียนว่า ถูกหญิงคนหนึ่งหลอกลงทุนทำธุรกิจ โดยในพื้นที่จะเรียกว่า “คุณนายดาว” หรือ นางสาวอาญาภา อิสริยาฐากูร อายุ 28 ปี ซึ่งอ้างตัวเองเป็นภรรยาของ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ และสนิทสนมกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  

โดยคุณนายดาว เป็นที่รู้จักในแวดวงการทำธุรกิจในภาคใต้ มักจะบอกกับคนอื่นๆว่า สนิทสนมกับพลเอกประวิตร และร้อยเอกธรรมนัสเป็นพิเศษ หากนักธุรกิจรายใดต้องการให้ช่วยเหลือทางธุรกิจก็สามารถช่วยได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

วานนี้ (22 ธ.ค.) ทางรายการโหนกระแส ก็เชิญผู้เสียหาย และคุณนายดาว มาร่วมรายการ โดยคุณนายดาวก็ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รู้จักกับพลเอกประวิตร และร้อยเอกธรรมนัส และไม่ได้ไปหลอกใคร หากทำอะไรผิดก็ให้นำหลักฐานมายืนยัน และตัวเองไม่เคยมีหมายจับ พอจบรายการ ปรากฎว่า คุณกรรชัย บอกว่า คุณนายดาว มีหมายจับ และตอนนี้ตำรวจรออยู่ หน้าสตูดิโอ

มีภาพเหตุการณ์หลังจากจากจบรายการโหนกระแส ตำรวจ สน.ทองหล่อ นำหมายจับของศาลแขวงนครศรีธรรมราช อ่านให้คุณนายดาวฟัง ในความผิดฐานฉ้อโกง หลังอ่านหมายจับเสร็จ ก็เชิญตัวไปสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทองหล่อ

โดยระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัว คุณนายดาวเปิดเผยว่า อยากชี้แจงและพร้อมที่จะยอมพังเพียงคนเดียว เพื่อปราบกลุ่ม 199 มงกุฎ ที่หากินกับวัดและหากินกับนักบุญ เป็นเวลายาวนานของเมืองนครศรีธรรมราช ในส่วนของข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อยากขอให้ติดตาม เพราะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง และตนเชื่อว่าตัวเองไม่ผิด จากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัวขึ้นรถ ไปสน.ทองหล่อ

หลังการสอบปากคำคุณนายดาวก็ออกมา เปิดเผยว่า การจับกุมนี้ ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีหมายจับ  เมื่อวานพึ่งไปโรงพักมา ก็เช็คแล้วไม่มีหมายจับ มารู้เมื่อตอนหลังจบรายการ ขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาในขอไปสู้กันในชั้นศาล จากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัวส่งสภ.เมืองนครศรีธรรมราชดำเนินคดีต่อไป

ทีมข่าวสอบถามกับคุณนฤมล หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ถูกคุณนายดาวหลอกเงินไปทั้งหมด 1.2 ล้านบาท โดยเริ่มรู้จักกับคุณนายดาวจากผู้ใหญ่ในพื้นที่ แนะนำให้รู้จัก เห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่า คุณนายดาวดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ และเป็นภรรยา ส.ส.ในจังหวัด จึงทำให้เชื่อใจ

ตนเองทำธุรกิจสบู่สมุนไพร คุณนายดาวก็ให้คำแนะนำว่า สามารถช่วยธุรกิจสบู่สมุนไพรไปขายในห้างและร้านค้าชื่อดังได้ เพราะ รู้จักกับนายธนกร วังบุญชนะ โฆษกรัฐบาล มีญาติเป็นเจ้าของร้านชื่อดัง ช่วยให้สบู่ของตนขายได้ร้านได้ และจะให้ร้อยเอกธรรมนัส และพลเอกประวิตรช่วยคุยให้อีกทาง

ตอนนั้นตนเชื่อทุกสิ่งที่คุณนายดาวพูด เพราะดูน่าเชื่อถือมาก และที่สำคัญยังนำภาพข้อความแชท กับพลเอกประวิตรและร้อยเอกธรรมนัส โดยเห็นว่ารูปโปรไฟล์คือ หน้าของพลเอกประวิตร ยิ่งทำให้ตนเชื่อ และด้วยความที่อยากให้ธุรกิจของตนได้ขึ้นไปขายในห้าง จึงหลงเชื่อตกลงทำสัญญา โดยคุณนายดาวขอค่าดำเนินการและส่วนแบ่งค่าสบู่ อ้างว่าเงินส่วนนี้ต้องนำไปให้พลเอกประวิตร ร้อยเอกธรรมนัส และนายธนากร เพื่อช่วยการดำเนินธุรกิจ

รอบแรก ให้เงินไปคุณนายดาว 350,000 บาท ต่อมาให้อีก 400,000 บาท เมื่อถึงวันทำสัญญาและคุณนายดาวอ้างว่า ต้องเลื่อนเพราะ พลเอกประวิตร กับร้อยเอกธรรมนัสมีเรื่องกัน ให้ผู้ใหญ่เคลียร์กันไปก่อน ตนก็เชื่ออีก เพราะช่วงนั้นก็มีข่าวเรื่องพลเอกประวิทย์และร้อยเอกธรรมนัสจริง  

รวมแล้วให้เงินคุณนายดาวไป 1 ล้าน 2 แสนบาท โดยเงินนี้ตนก็นำบ้าน นำรถ ไปจำนองและขายทรัพย์สินมีค่าต่างๆ เพื่อไปลงทุน จนกระทั่งมารู้ว่าโดนหลอก พยายามติดต่อขอเงินคืน คุณนายดาวก็หลบหน้า หนีหายไป และมารู้ประวัติว่า แท้จริงคุณนายดาวไม่มีบ้านอยู่ อาศัยนอนพักตามโรงแรม

“ตอนนี้เครียดจัด เพราะไม่มีเงินแล้ว ถูกคุณนายดาวหลอกหมดตัว ขนาดเงินจะจ่ายค่าไฟจะกินยังไม่มี ชีวิตพังเพราะคุณนายดาว”

จึงเข้าแจ้งความและพบว่า มีผู้เสียหาย ลักษณะเดียวกับตน หลายคน ทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง และแม้ว่า วันนี้คุณนายดาวโดนจับแล้ว แต่หากได้ประกันตัวออกมาก็ไม่รู้จะไปหลอกใครอีกหรือไม่

ต่อมา นายธนกร  วังบุญชนะ โฆษกรัฐบาล ออกมาระบุว่า จากกรณี มีการแอบอ้างชื่อพลเอกประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส  รวมทั้งว่าอ้างรู้จักโฆษกรัฐบาล หลอกหลวงประชาชน โดยมีเจตนาและพฤติกรรม ทำให้ตนเองน่าเชื่อถือ หรือทำให้หลงเชื่อว่า สามารถช่วยดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ และมีประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับความเดือดร้อน

ขอยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักผู้ที่นำชื่อแอบอ้าง ที่ผ่านมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์  ไม่เคยเรียกร้องผลประโยชน์ และหากมีใครนำชื่อผม ไปในทางผิดกฏหมาย จะดำเนินคดีทุกรายให้ถึงที่สุด ไม่ว่าใครที่แอบอ้างชื่อไปดำเนินการผิดกฎหมาย ทำให้พี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อนหรือผมเสื่อมเสียชื่อเสียง

และยืนยันว่า ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายชัดเจน สั่งการไม่ให้มีการคอร์รัปชัน ทุจริต ต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_IrWnUW6PP0


คุณอาจสนใจ

Related News