สาวลุยเอาผิด ฉีดโบท็อกซ์จากหมอปลอม คลินิกพิมรี่พาย แล้วคิ้วไม่เท่ากัน

ความคืบหน้ากรณี การจับกุมนางสาว อาลินดา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ใช้เอกสารของหมอหยก แพทย์หญิงที่อยู่ต่างประเทศ ปลอมเป็นแพทย์ ไปทำงานในคลินิก EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) ของนางสาว พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ซึ่งหลังจากตำรวจจับกุมนางสาวอาลินดา ก็ได้รับการประกันตัว

แต่มุมของลูกค้าที่หมอปลอมคนนี้ฉีดหน้าให้ ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) กลุ่มลูกค้าที่ถูกหมอปลอมฉีดหน้า เข้าแจ้งความสน.ห้วยขวาง โดยผู้เสียหาย แยกเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการฉีด เข้าแจ้งความเอาผิดหมอปลอม ด้วยตัวเอง และกลุ่มที่มีแอดมินคลินิกคอยดูแล  

ช่วงแรกกลุ่มผู้เสียหาย แจ้งผู้สื่อข่าว นัดรวมตัวกันที่คลินิกก่อนจะไปโรงพัก แต่ระหว่างที่รอ พบว่า มีหญิงผู้เสียหายเข้ามาที่คลินิก โดยหญิงคนนี้เล่าว่า มาฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอปลอม หลังจากฉีดเกิดอาการปากบวมและเป็นก้อนขนาดใหญ่ ทางคลินิกก็คืนเงิน และให้คุณหมอแก้ไขให้ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรักษา

ซึ่งขณะที่หญิงคนนี้กำลังให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ปรากฎว่า อยู่ดีๆมีกลุ่มคนในคลินิก เดินออกมา 3-4 คน พยายามหนีผู้สื่อข่าว ขึ้นรถแท็กซี่ไป และหญิงผู้เสียหายที่กำลังให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวก็ตามขึ้นรถออกไปจากหน้าคลินิกทันที

และต่อมาก็พบว่าที่คลินิก มีช่างนำสติกเกอร์สีขาว มาปิดทับการให้บริการของคลินิก จากเดิมที่มีข้อความระบุว่าให้บริการอะไรบ้างแต่หลังจากเกิดคดีความก็ปิดทับข้อความ เหลือเพียงชื่อคลินิกและรูปของพิมรี่พายเท่านั้น

ส่วนที่สน.ห้วยขวาง นางสาวแก้ว (นามสมมติ) อายุ 33 ปี เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนางสาวอาลินดา หมอปลอม ที่นำเอกสารปลอมไปหลอกเป็นหมอคลินิกพิมรี่พาย โดยนางสาวแก้ว เล่าว่า ตนเองซื้อโปรโมชั่น โบท็อกซ์ 200 ยูนิต ราคา 4,444 บาท  

ตนเดินทางมาฉีดวันที่ 29 พ.ย. ระหว่างที่ฉีดหมอก็ดูปกติทุกอย่างเหมือนคุณหมอทั่วๆไป เริ่มจากตรวจสอบริ้วรอยใบหน้า ประคบน้ำแข็ง และฉีดตามใบหน้าจุดริ้วรอย ทั้งแก้ม คาง หน้าผาก และหางตา ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 3 สัปดาห์ ปรากฎว่า บริเวณหางตาตึงผิดปกติ และสังเกตุว่าที่หางคิ้ว ไม่เท่ากัน ซึ่งก่อนฉีดคิ้วตนเองเป็นปกติ ไม่ได้เบี้ยว จึงไม่แน่ใจว่า คิ้วที่ไม่เท่ากันนั้น เพราะโบท็อกที่ฉีดยังไม่เข้าที่ หรือเพราะตัวยาโบท็อกซ์ที่ฉีด หรือเพราะหมอปลอมทำไม่ดี

นอกจากอาการผิดปกติแล้ว สิ่งที่คาใจมากคือ ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้ หมอปลอมคนนี้  ไม่ได้บอกยี่ห้อโบท็อกซ์เหมือนคลินิกอื่นๆ ที่เวลาฉีดหมอจะหยิบโบท็อกซ์ออกจากกล่องให้ดู แต่หมอคนนี้ ไม่มี มีแค่ตัวยาที่อยู่ในหลอดฉีดยาแล้ว จึงไม่แน่ใจว่า ทางคลินิก หรือหมอปลอมคนนี้ฉีดอะไรเข้าที่หน้าตนเอง ซึ่งตามปกติไปฉีดที่คลินิกอื่น หมอจะแจ้งก่อนฉีดว่า ฉีดยี่ห้ออะไร และ ดึงยาจากขวดให้เห็น

นอกจากนี้ ยังคาใจว่า ทำไมตำรวจถึงให้ประกันตัวหมอปลอมคนนี้ เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมของหมอปลอม น่าจะไปทำกับคนอื่นมานาน  ซึ่งถือเป็นอันตรายต่อสังคม

ส่วนกรณีที่หมอปลอม สารภาพและสำนึกผิด อ้างว่า มีความชำนาญในการฉีดหน้าแม้จะไม่ได้จบหมอ แต่ฝึกฉีดหน้าให้กับพนักงานบ่อย และอยู่ในวงการมานานจึงชำนาญ คุณแก้วผู้เสียหายบอกว่า เหตุผลฟังขึ้น  รับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้ และอยากบอกถึงหมอปลอมคนนี้ว่า “หยุด การกระทำ อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะรับผิดชอบไหวหรือไม่”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/STxFq3ey2sU