สังคม

รวบหมอปลอม คลินิก 'พิมรี่พาย' สารภาพหมดเปลือก เครียดจัด อยากฆ่าตัวตาย

โดย thichaphat_d

20 ธ.ค. 2564

57 views

ความคืบหน้ากรณี นางสาวปรียนุช แพทย์หญิงคนหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ออกมาระบุว่าตนเองเป็นหมอที่ถูกแอบอ้างชื่อ เป็นแพทย์ ใน EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) คลินิกเสริมความงาม ของพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง โดยระบุ ว่าตนเองไม่ได้ทำงานที่คลินิกของ พิมรี่พาย อยู่ต่างประเทศมานานกว่า 7 เดือนแล้ว


ต่อมาวันที่ 16 ธันวาคม น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าและยูทูปเปอร์ชื่อดัง พร้อมทนายความ ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เข้าแจ้งความ กับ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก.(สอบสวน)  กก.4 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวอาลินดา ผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์เสริมความงาม มาสมัครงานที่คลินิค EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) โดยนำหลักฐานจากแพทยสภาและสำเนาบัตรประชาชน  ซึ่งเป็นชื่อของแพทย์ตัวจริงมาแอบอ้าง


ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จึงมีคำสั่งให้ปิดคลินิกชั่วคราว 30 วัน ซึ่งระหว่างนี้ พิมรี่พาย เจ้าของคลินิก ก็ไลฟ์ประกาศให้รางวัลผู้ให้เบาะแส นำไปสู่การจับกุม นางสาวอาลินดา จำนวน 1 แสนบาท


เมื่อวานนี้ (19 ธันวาคม) ตำรวจกองกำกับการ4 กองบังคับการเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อผู้บริโภค หรือ ปคบ. เข้าจับกุมนางสาวอาลินดา ที่ทำการแอบอ้างใช้ชื่อของนางสาวปิยนุช หรือหมอหยก ขณะที่พักผ่อนอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี


โดย ตำรวจเข้าแสดงตัวและอ่านรายละเอียดหมายจับให้กับนางสาวอาลินดารับทราบ และเชิญตัวมาสอบปากคำ ที่ ปคบ.


จากการสอบสวน นางสาวอาลินดา ให้การรับสารภาพ ว่าเมื่อประมาณกลางปี 2564 ทำงานเป็นผู้จัดการคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง และแอบขโมยใบประกอบวิชาชีพของหมอหยก ที่มายื่นสมัครงาน เป็นแพทย์ พาร์ทไทม์ โดยได้ใช้เอกสารประจำตัวและใบประกอบวิชาชีพ แอบอ้างว่าเป็นตนเอง จากนั้นก็นำมาสมัครงานที่คลินิกของพิมรี่พาย ในตำแหน่งแพทย์ประจำคลินิก ทำหน้าที่ และดูแลผิวหน้าให้ลูกค้าและฉีดสารเติมแต่งให้กับลูกค้าทั้ง ฉีดฟิลเลอร์,โบท็อกซ์ ฯ  


ซึ่งแท้จริงแล้ว ตนเองไม่ได้เรียนจบหมอ แต่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ส่วนการชำนาญในการฉีดและรักษาผิวหน้านั้น เนื่องจาก ทำงานในวงการเสริมความงามมานาน และช่วงที่ทำงานในคลินิกเก่า ก็ลักลอบนำสารโบท็อกซ์ ที่เหลือจากการให้บริการลูกค้า มาทดลองฉีดให้กับพนักงานในคลินิก จนชำนาญ


ซึ่งตลอดระเวลาที่ฝึกหัดฉีดให้เพื่อนพนักงานก็ไม่พบว่ามีใครได้รับอันตราย หรือเสียหายจากการฉีดของนางสาวอาลินดา เมื่อมาทำงานที่คลินิกของพิมรี่พาย ก็ดูแลลูกค้าและฉีดหน้าให้ลูกค้าตามปกติ ยังไม่มีลูกค้าร้องเรียนหรือได้รับความเสียหายจากการฉีดของตนเอง


หลังจากที่พิมรี่พายทราบเรื่องว่าใช้เอกสารปลอมนั้น ก็หนีออกจากที่พักย่านปทุมธานี โดยไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี แต่ตกใจกลัว และทุกๆ วันก็คิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเครียดมาก เสียใจไม่ได้ตั้งใจทำ และได้ปรึกษาทนายความ และเตรียมหลักฐานจะเข้ามอบตัว ในเช้าวันนี้ (20 ธันวาคม) แต่ถูกตำรวจจับกุมได้ก่อน


หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น ตำรวจ แจ้งข้อหา 1. ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น, 2. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, 3. แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม


ส่วนข้อหาเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นจำคุก 5 ปีปรับ 100,000 บาท อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ


นางสาวอิลนดา ก็ยื่นขอประตัว ในชั้นสอบสวน 100,000 บาท ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการยื่นประกันตัว และพนักงานสอบสวนเห็นว่า ผู้ต้องหามีความประสงค์จะเข้ามอบตัว จึงอนุญาตให้ประกันตัว


ส่วนกรณีของ หมอหยก ผู้เสียหายที่ถูกแอบอ้างนำเอกสารปลอมเป็นหมอนั้น ตำรวจได้ประสานขอรายละเอียดไปแล้วและพบว่า อยู่ที่ต่างประเทศจริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำของนางสาวอาลินดา ซึ่งคุณหมอ ได้ประสานให้ทนายนำเอกสารมาชี้แจงและจะให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้ว


ทั้งนี้ หลังการจับกุม ก็มีการวิพากวิจารณ์ว่า รางวัลนำจับเบาะแสของหมอปลอมคนนี้ ซึ่งพิมรี่พายตั้งรางวัลนำจับ จำนวน 1 แสนบาท เรื่องนี้ ทางตำรวจชุดจับกุม ยืนยันว่า ไม่ขอรับเงินใดๆ เพราะทำตามหน้าที่ ซึ่งกรณีนี้ ตำรวจได้เฝ้าตามนางสาวอาลินดา มาระยะหนึ่งแล้ว และพบหลักฐานจนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม และตามจับกุมในช่วงสายวันที่ 19 ธันวาคม


ขณะที่ผู้เสียหายของคลินิกพิมรี่พาย ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า เธอซื้อโปรโมชั่นร้อยไหมของพิมรี่พาย และนัดเข้าทำตอน 1 ทุ่ม แตได้ทำจริงตอน 5 ทุ่ม ทันทีที่หมอปลอม ฉีดยาชา แต่ไม่รอให้ยาออกฤทธิ์ แต่กลับแทงเข็มเข้าบนใบหน้าซึ่งทำให้เจ็บปวดอย่างมาก และภายหลังการเสร็จสิ้นทางคลินิกก็ให้เพียงยาพาราเท่านั้น ไม่ได้มีการให้ยาแก้อักเสบกลับมารักษา


ภายหลังเป็นข่าวว่าแพทย์ที่ทำหน้าให้เธอเป็นหมอปลอม พยายามไลน์ติดต่อไปยังคลินิก และได้คำตอบว่าทางคลินิกจะคืนเงินทั้งหมดที่ลูกค้าซื้อโปรฯมาเต็มจำนวน พร้อมกับชดใช้ให้เพิ่มเติมอีกรายละ 5,000 บาท ซึ่งเธอยังข้องใจว่าเอาเกณฑ์อะไรมาตัดสิน ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่รอเจรจากับทนายของคลินิก


ทั้งนี้ ยังทราบอีกว่ามีผู้เสียหายรายอื่นที่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางคลินิก ยังมีข้อมูลจากผู้เสียหายอีกว่าสำหรับข้อมูลที่มีการเปิดเผยว่าหมอปลอมรายนี้รักษาหรือให้บริการคนไข้ไปไม่เกิน 12 รายยืนยันว่าเฉพาะวันที่ตนเข้ารับการเสริมความงาม ก็มีผู้เข้ารับ บริการมากกว่า 40 คนตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณหัวค่ำ ซึ่งหมอปลอมรายดังกล่าวก็เป็นผู้ลงมือให้บริการตั้งแต่ช่วงสายของวันดังกล่าว จึงเชื่อว่าผู้เสียหายหรือผู้ที่เข้า รับบริการโดยหมอปลอมรายนี้ต้องมีมากกว่า 12 ราย


ส่วนภายหลังการเจรจาติดต่อ มีการให้เข้าไปตรวจสอบกับแพทย์ตัวจริง ประเด็นนี้ก็ทำให้ตนเองและผู้ใช้บริการบางรายรู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากว่าเมื่อเข้าไปพบแพทย์ของคลินิกรายดังกล่าวกลับตอบว่า ไม่ต้องคิดมากใบหน้าสวยไม่มีปัญหา


ซึ่งส่วนตัวมองว่าในเมื่อตนเองมาทราบว่าผู้ที่เป็นคนลงมือทำใบหน้าของตนเองไม่ใช่แพทย์แต่แพทย์จริงๆ กลับบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนจึงรู้สึกว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่จริงใจ สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ตนเองต้องรอพูดคุยเจรจากับทางตัวแทนทางกฎหมายของทางคลินิกอีกครั้งว่าจะมีการเยียวยาชดใช้อย่างไรกับเหตุการณ์ดังกล่าว



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/kQRNrMSo5tA


คุณอาจสนใจ

Related News