"ณัฐธ์ภัสส์" เร่งดำเนินตามนโยบาย รมว.ยุติธรรม เยียวยาครอบครัวหญิงป่วยดาวน์ซินโดรมถูกฆ่าข่มขืน

"ณัฐธ์ภัสส์" เร่งดำเนินตามนโยบาย รมว.ยุติธรรม เยียวยาครอบครัวหญิงป่วยดาวน์ซินโดรม ถูกฆ่าข่มขืนที่ปทุมฯ ชี้สิทธิสตรีเป็นเรื่องสำคัญ หวังช่วยลดคดีลวนลาม - ข่มขืน เผย "สมศักดิ์" จี้ สยจ.ทำงานเชิงรุกมากกว่าเดิม 3 เท่า

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพบศพหญิงวัย 48 ปี ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม นอนเสียชีวิตอยู่ข้างร่องน้ำ โดยผลชันสูตรพบ คอหัก ถูกชำเรา ในปอดมีน้ำ ซึ่งล่าสุดตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และตั้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

โดยกรณีนี้ตนได้เร่งดำเนินการตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เร่งให้ความช่วยเหลือและเยียวยาทายาทผู้เสียหายจากคดีดังกล่าว และได้เร่งให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเร่งทำงานมากกว่าเดิม 3 เท่า เพราะยังมีประชาชนอีกมากยังเข้าไม่ถึงสิทธิเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา รวมทั้งเรื่องของสิทธิสตรี ในการป้องกันอาชญากรรมที่ถูกระทำชำเราและลวนลาม ผู้หญิงต้องมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายต่าง ๆ ที่ตนได้ดำเนินการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนความคืบหน้าของการเยียวยา ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากยุติธรรมจังหวัดได้ติดต่อประสานไปยัง สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับคดีและข้อมูลผู้เสียหายและประสานข้อมูลไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปทุมธานี เพื่อสอบถามข้อมูลและการช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.ซิ้ม สงวนนามสกุล (ผู้ตาย)

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและประวัติทางครอบครัวของผู้ตาย และจะได้นำข้อมูลดังกล่าวพิจารณาช่วยเหลือครอบครัวของผู้ตาย และเจ้าหน้าที่จากยุติธรรมจังหวัดได้ลงพื้นที่ไปพบนางพรพรรณ สงวนนามสกุล (พี่สาว) ทายาทของนางสาวซิ้ม เพื่อแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และได้แจ้งสิทธิให้ทราบ รวมทั้งการทำคำร้องขอค่าตอบแทนฯ กรณีผู้เสียหายในคดีอาญา โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดปทุมธานีจะได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์และวิธีการ

ในการยื่นคำขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)  พ.ศ. 2559 ให้แก่ทายาทของผู้ตายต่อไป โดยจะนำเข้าพิจารณาคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 22 กันยายน 2564 โดยจะได้รับค่าตอบแทนถึงแก่ความตาย 50,000 บาท ค่าจัดการศพ  20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท รวมทั้งสิ้น 110,000 บาท ซึ่งหากประชาชนตกเป็นเหยื่อหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อได้ที่สำนักงายุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ