ตาวัย 92 ป่วยติดเตียง ติดโควิดดับคาบ้าน ลูกสาวโทรขอเตียง ได้คำตอบต้องมีผลแล็บ จนท.ชี้ "มันเป็นกฎ"

เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ เมื่อคุณตาวัย 92 ปี ป่วยติดเตียง ติดเชื้อโควิดจากลูกชาย หลังซื้อที่ตรวจเชื้อมาตรวจเองที่บ้าน พบผลเป็นบวก ลูกสาวพยายามติดต่อหน่วยงานต่างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะคุณตาอาการทรุด แต่ได้รับคำตอบเพียงว่า ต้องมีผลตรวจจากแล็บเท่านั้น เมื่อติดต่อไปโรงพยาบาลต่างๆก็ไม่มีที่ไหนรับตรวจ กระทั่งสุดท้ายคุณตาเสียชีวิตคาบ้านก่อนได้รับการรักษา

โดยคุณวันวิสา ลูกสาวคุณตา เผยว่า คุณพ่อ คุณแม่ และน้องชายของตน อาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนตนทำงานที่ต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ น้องชายมีอาการคล้ายไข้หวัด จึงไปโรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด แต่อาการไม่มาก จึงได้ไปอยู่ที่ศูนย์พักคอย ต่อมาคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เริ่มมีอาการ จึงซื้อที่ตรวจมาตรวจเอง พบผลเป็นบวก

ระหว่างนั้นอาการพ่อก็ทรุดลงเรื่อยๆ ระดับออกซิเจนเหลือ 76% ตนจึงพยายามติดต่อหน่วยงานต่างๆเพื่อหาเตียงให้คุณพ่อ แต่ได้รับคำตอบเพียงว่า ต้องมีผลตรวจจากแล็บเท่านั้น เมื่อพยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับตรวจ กระทั่งคุณพ่อเสียชีวิตลงเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งคุณพ่อไม่มีโรคประจำตัวใดๆ

ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิต พ่อมีอาการทุรนทุราย คล้ายหายใจไม่ออก เพ้อ กระสับกระส่าย ไม่มีแรงแม้แต่จะดื่มน้ำ ต้องตักใส่ช้อนป้อนให้กิน ไม่สามารถสื่อสารอะไรได้แล้ว ส่วนคุณแม่ยังโชคดีที่อาการไม่มาก จึงเป็นคนคอยดูแลคุณพ่อ

ตนมองว่า ทุกวันนี้ เราต้องช่วยตัวเราเอง หวังพึ่งอะไรไม่ได้ การที่เจ็บป่วย แต่ต้องรอผลแล็บอย่างเป็นทางการ มันช้าเกินไป ที่จะรักษาชีวิตไว้ได้ ซึ่งมีหน่วยงานหนึ่งแจ้งว่ามีเตียง แต่ต้องมีผลแล็บเท่านั้นถึงจะไปรักษาได้ ตนจึงถามกลับไปว่า คุณพ่อตนนอนติดเตียง จะไปตรวจได้อย่างไร เขาก็ตอบกลับมาว่า "มันเป็นกฎ"

คุณวันวิสา กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจมากที่เสียพ่อ และติดใจในกฎระเบียบของภาครัฐอย่างมาก อยากให้มีการยืดหยุ่นเรื่องกฎ เพื่อจะได้รักษาชีวิตของพ่อแม่คนอื่นต่อไป ควรมีการสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์และยา ให้เข้าถึงได้ง่ายกว่านี้ ตอนนี้น้องชายก็เครียดมาก ที่มีส่วนทำให้พ่อเสียชีวิต ตนก็ปลอบไปว่า วันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องยอมรับความจริง ทั้งนี้ ตอนที่ตนพยายามติดต่อหน่วยงานต่างๆ ก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณพ่อจะหาย เพียงแต่อยากให้คุณพ่อจากไปอย่างสงบ ไม่ใช่จากไปแบบทุรนทุรายแบบนี้ มันทรมานใจมาก ที่เห็นคนในครอบครัวจากไปโดยที่เราช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย

ขณะที่ คุณยาย วัย 75 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เผยว่า สามีเคยเกิดอุบัติเหตุจนต้องนอนติดเตียง ก่อนหน้านี้ ยังสามารถลุกขึ้นนั่งกินข้าวเองได้ แต่หลังติดโควิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สื่อสารไม่ได้ ก่อนที่สามีจะเสียชีวิต ตนมาใส่เครื่องออกซิเจนให้ จากนั้นตนก็ไปนอน

พอตอนเช้ามาดู ก็พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ตนและสามีอยู่กินกันมา 50 กว่าปี รู้สึกใจหาย เถียงกันบ้างทะเลาะกันบ้างตามประสาสามีภรรยา เขาเป็นคนใจดี ชีวิตแต่งงานไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย นึกไม่ถึงว่าเขาจะจากไปแบบนี้ โดยที่ตนทำอะไรไม่ได้เลย ลูกหลาน ญาติพี่น้องก็ไม่สามารถดูใจเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ตนก็ต้องอยู่คนเดียวในบ้าน เพราะลูกก็เข้ามาหาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะนอนหลับตาลงได้อย่างไร

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ :