ทร.จัดพิธีเคลื่อนร่าง ‘ต้นเรือพลับ’ พรุ่งนี้ ‘ครอบครัว - เพื่อน’ โพสต์เศร้า สดุดีความกล้าหาญ

กองทัพเรือ ยืนยันผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตรายที่ 24 เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง คือ "ต้นเรือพลับ" โดยวันพรุ่งนี้จะมีพิธีเคลื่อนร่าง จากฐานทัพเรือกรุงเทพ ไปที่วัดศรีเอี่ยม ขณะที่ ‘ครอบครัว - เพื่อน’ โพสต์เศร้า สดุดีความกล้าหาญ


เมื่อวานนี้ พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้รายงานผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตรายที่ 24 จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยืนยันว่า คือร่างของ ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม หรือ ต้นเรือพลับ ต้นเรือเรือหลวงสุโขทัย โดยในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม เวลา 13.30 น. จะมีการเคลื่อนร่างออกจากฐานทัพเรือกรุงเทพ ไปยังวัดศรีเอี่ยม เขตบางนา โดยมี ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่ ร่วมพิธี ในการนี้กองทัพเรือได้จัดกองทหารเกียรติยศและขบวนรถเคลื่อนร่างของ ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ อย่างสมเกียรติ ซึ่งจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ วัดศรีเอี่ยม ในเวลา 17.30 น.

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือ สรุปข้อมูลเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีผู้เสียชีวิตรวม 24 นาย และยังเหลือผู้สูญหายอีก 5 นาย ภายหลัง กองทัพเรือ ยืนยันว่าร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 24 ที่พบก่อนหน้านี้ คือ "ต้นเรือพลับ" ไม่มีปาฏิหาริย์

โดยพี่สาวต้นเรือพลับ ได้โพสต์ภาพ 3 คนพี่น้อง พร้อมข้อความอาลัย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "พี่ไม่คิดเลยว่ารูปนี้ จะเป็นรูปสุดท้ายของเรา 3 คนพี่น้องคุณนายคะ คุณยายบอกว่าหนูเป็นพี่คนโตให้หนูดูดแลน้อง แต่หนูไม่สามารถช่วยอะไรน้องได้เลย หนูขอโทษนะคะ ตอนนี้คุณยายเจอเจ้าตัวเล็กของเรารึยังคะ ฝากดูแลน้องด้วยนะคะ พลับพูดอยู่เสมอว่าคิดถึงอาหารที่คุณยายทำพลับ พี่รักพลับนะ หลับให้สบายนะน้องรัก ไม่ต้องห่วงคุณพ่อคุณแม่ และกุ๊กกิ๊กนะ พี่กับพี่พีทจะดูแลทุกคนเอง 2565 ใจร้ายเหลือเกิน พรากคนที่เรารักที่สุดในชีวิตไปถึง 2 คน"

ขณะที่พี่ชายต้นเรือพลับ ก็ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพอุ้มต้นเรือพลับในวัยเด็ก ระบุว่า "ไม่ใช่เราทำใจไม่ได้ หรือไม่ยอมรับความจริง แต่จากประสิทธิภาพของการประสานงานกับการสื่อสารในช่วงที่ผ่านมา ไม่มีอะไรทำให้เราเชื่อมั่นได้เลย การที่มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งญาติว่าฟันตรง โดยไม่ให้ข้อมูลอื่นๆ หรือมีหลักฐานประกอบเลย ถ้าเป็นคุณ คุณจะเชื่อไหม ตามหลักการแล้ว ญาติมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ และเข้าถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และตามกระบวนการ เรามีสิทธิ์จะร้องขอการตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อความมั่นใจว่าได้ส่งร่างคืนให้ถูกครอบครัว และอาจเป็นการซื้อเวลาให้ญาติมีเวลาทำใจมากขึ้น ผมเป็นหมอ ผมเป็นทหาร ผมรู้อยู่แล้วว่าโอกาสที่เค้าจะรอด หลัง 48-72 ชั่วโมง มันแทบจะไม่มีเลย"

ช่วงหนึ่งในโพสต์ของพี่ชาย ยังเขียนว่า คนที่บอกว่าทำใจยอมรับเหอะหลายวันแล้ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าเค้าเติบโตมายังไง มันไม่ใช่เรื่องง่าย ระยะเวลาในการทำใจของแต่ละคน หรือจัดการกับอารมณ์แต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกัน

"ผมเป็นพี่ ผมยังปวดใจขนาดนี้ แล้วหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ล่ะครับ ไหนจะน้องสะใภ้ผมอีก แค่ต้องคิดว่าผมจะไม่ได้กอดน้องแล้ว น้องที่ผมอุ้มมาตั้งแต่น้องเกิด ไอ้หมาของผม ผมยังห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ไม่ได้เลย ผมขอขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้นะครับ ตอนนี้ผมขอเวลาและขอความเป็นส่วนตัวให้คนในครอบครัวด้วยครับ ขอบคุณทุกคนมากๆ จริงๆ"

นอกจากครอบครัว ยังมีเพื่อนของต้นเรือพลับที่โพสต์อาลัย ระบุว่า ถึงเพื่อนรัก ความกล้าหาญและเกียรติยศ หาได้มีมาแต่กำเนิด หากแต่อยู่ที่เราพึงกระทำ ถึงเวลานี้คงมีเพียงคำว่า "วีรบุรุษ" ที่เหมาะสม กับตัวตนและการกระทำของมึง การเดินทางของมึงถึง ปลายทางแล้ว ขอให้มึงพักผ่อนอย่างสุคติ ไม่ต้องเป็นกังวล ทุกสิ่ง ที่มึงได้กระทำ จะเป็นแบบอย่างให้พวกเราเหล่าสามสมอ และราชนาวีทุกคน พึงตระหนักว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความหมายที่สุด คือ การได้ใช้มันเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น"

และยังมีข้อความไว้อาลัย จากเพจรวมพลคนรักทหารเรือ ได้โพสต์ติดแฮชแท็ก #ต้นเรือพลับ #วีรบุรุษเรือหลวงสุโขทัย #ผู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกข้อมูลทุกคำบอกเล่าจากกำลังพลเรือวันเกิดเหตุ "ที่ต้นเรือพลับ นำพาเราตั้งแต่ เรือเอียงมากๆ ทุกคนอยู่ในความหวาดกลัว พอจังหวะที่ทุกคนลงในน้ำ สั่งการพาเราว่ายน้ำเป็นกลุ่มๆ ไปจนถึงเรือกระบุรีสำเร็จ โดยที่ต้นเรือพลับ ก็ลากพาจ่าตรีที่ไม่มีชูชีพไปด้วย และยังคงตะโกนสั่งให้ทุกคนขึ้นเรือไปอยู่ตลอดเวลา จนพวกเราส่วนมากขึ้นเรือได้ครับ" ขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งเกินกว่าจะมีคำพูดใดๆ บรรยายได้ต่อครอบครัวสิโรดม ขอสดุดีถึงความเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความกล้าหาญ พวกเราจะจดจำในนาม วีรบุรุษเรือหลวงสุโขทัยตลอดไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xcVDiGImCJ0