หลายจังหวัดยังอ่วม! บางบ้านน้ำท่วมมิดหลังคา ปภ.คาดฝนตกหนักถึง 11 ต.ค.

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังวิกฤต จ.อุบลฯ เกิดน้ำทะลักเข้าท่วมห้างสรรพสินค้า พนักงานเกือบร้อยติดอยู่ภายใน กู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือ

เมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำได้ทะลักท่วมฝ่ากระสอบทรายกั้นน้ำ มาในถนนสถิตนิมานกาล เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ทำให้น้ำท่วมเข้าไปในห้างดูโฮม พนักงานต้องนำกระสอบทรายมาเสริมกั้น กระแสน้ำที่ไหลบ่าต่อเนื่องสูงเกือบ 1 เมตร ทางกู้ภัยฯ ต้องนำเรือไปช่วยเหลือพนักงาน และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ แต่ก็มีพนักงานบางส่วนไม่ประสงค์อพยพออกมา จึงได้เตรียมเรือไว้หลายลำ หากได้รับการร้องขอจะนำกำลังเข้าช่วยเหลือทันที

นอกจากนี้น้ำยังเอ่อไหลล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนสายสำคัญๆ โดยเพราะถนนสายเลี่ยงเมืองอุบลราชธานี และ วารินชำราบ ซึ่งเป็นถนน 4 เลน ความยาวกว่า 10 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือข้ามฝังระหว่าง 2 อำเภอ แทนการใช้รถยนต์

ส่วนที่ จ.นนทบุรี น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นสูง ทำให้เขื่อนแตกหลายจุด อย่างเช่นที่บริเวณซอยพิบูล สงคราม 5 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พบ มวลน้ำได้พังคันกั้นน้ำทะลักเข้าท่วมในชุมชุนชุน ซึ่งชาวบ้าน พระลูกวัดเขมา และเจ้าหน้าที่ ช่วยกันยกกระสอบทรายที่พังลงมาทำเขื่อนคันกั้นน้ำใหม่ แต่ก็ทำไม่ไหว เพราะกระแสน้ำแรงมาก ซึ่งในเวลาต่อมา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ ทำงานอย่างหนักหลายจุด ทั้งจุดพระราม 5 และกรมราชทัณฑ์ รวมทั้ง ซอยแสงเทียนตลาดสดเทศบาลนนทบุรี ที่มีระดับน้ำเข้าท่วมชุมชน จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมก่อนพื้นที่อื่นๆ บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านยกใต้ถุนสูง มาถึงวันนี้น้ำท่วมพื้นบ้านเลยขอบหน้าต่าง ต้องงัดพื้นบ้านหนุนให้สูงขึ้นเป็นที่อาศัยหลับนอน แต่ละหลังหนุนสูงขึ้นมาเกือบติดหลังคาสังกะสี กลางวันแดดร้อนระอุ ยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเพิ่มขึ้นมาอีก ในช่วงเวลาเที่ยงอากาศร้อนชาวบ้านต้องปิดบ้าน พายเรือออกมาลอยลำอยู่ริมถนนสาย

นอกจากนี้ยังเกิดเหตุสลด ที่ จ.มหาสารคาม พบเรือยาวขนาด 40 ฝีพาย เกิดอุบัติเหตุชนตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำชี ในการแข่งขันงานประเพณีแข่งเรือยาวไหลเรือไฟออกพรรษา ที่วัดท่าตูมวารินทร์ ตำบลท่าตูม อ.เมือง ส่งผลให้มีผู้สูญหาย 3 ราย

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา โดยมีพ่อแม่ของผู้สูญหายหวังเจอลูกวันนี้ พร้อมกับจุดธูปเรียกให้ลูกมากินข้าว มากินกาแฟกับขนมปัง

หนึ่งในฝีพายที่รอดชีวิต เล่าว่า ตอนเกิดเหตุน้ำไหลเชี่ยว ได้เบี่ยงเรือไปทางริมฝั่ง ไม่ไปตามแนวที่เรือตั้งใจพาย พร้อมกับบังคับไม่อยู่ คาดว่าผู้สูญหายที่ว่ายน้ำเป็น อาจเจอกระแสน้ำแรงมากกว่าทุกปี จนหมดแรงจมหายไป

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์ เช้านี้วันที่ 10 ต.ค.2565 เวลา 10.50 น. ยังมีพื้นที่น้ำท่วม กระจายใน 26 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ขณะที่อีกจุด ก็คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้ง ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และ ปทุมธานี นอกจากนี้ ล่าสุดยังมีรายงานฝนตกหนัก ในพื้นที่จังหวัดตรัง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม รวม 2 ตำบลด้วย

สรุปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.จนถึง 10 ต.ค.2565 มีน้ำท่วมครอบคลุม 54 จังหวัด 253 อำเภอ กระทบประชาชนรวม 236,635 ครัวเรือน

ขณะเดียวกัน ปภ. ยังได้แจ้งเตือนทั่วทุกพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง ซึ่งเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ไปจนถึง 11 ต.ค.นี้ ก็เน้นย้ำให้จังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ และพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง