สังคม

‘ศักดิ์สยาม’ ขีดเส้น 14 วัน สรุปผลสอบคานสะพาน ‘ดร.เอ้’ วิเคราะห์เหตุถล่ม บทเรียนราคาแพง

โดย JitrarutP

2 ส.ค. 2565

414 views

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุคานสะพานกลับรถพระราม 2 ร่วง ขีดเส้นต้องรู้ผลใน 14 วัน ขณะที่นายก วสท.ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกรอบ หลังนักวิชาการบางคนตั้งคำถาม นี่อาจจะไม่ใช่เหตุสุดวิสัย


ความคืบหน้ากรณีเหตุชิ้นส่วนสะพานกลับรถถล่มที่ถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 34 ที่เกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ (2 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ยังคงปิดเส้นทางการจราจรบริเวณใต้สะพานดังกล่าว ไม่ให้รถเข้ามาสัญจร เพื่อความปลอดภัย โดยให้ไปใช้ช่องทางคู่ขนาน ทำให้การจราจรที่ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงจังหวัดสมุทรสาคร ยังคงรถติดยาวสะสมถึง 6 กิโลเมตร


ขณะที่บริเวณสะพานจุดเกิดเหตุ คนงานได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ล้างทำความสะอาดเศษซากปรักหักพัง ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างของสะพานอีกครั้ง


ล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ว่า กรมทางหลวงจะดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ที่ดำเนินการอยู่ ส่วนสาเหตุจะมาจากความประมาทหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว โดยขอให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลกลับมาภายใน 14 วัน


ส่วนที่ประชาชนยังหวาดผวากับเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เข้มงวดและดำเนินการให้รอบคอบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก พร้อมต้องขออภัยประชาชนทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะที่ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. ซึ่งเคยเป็นอดีตนายกสภาวิศวกร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ "บทเรียนราคาแพง ที่ต้องค้นหาความจริง" ย้ำว่า ต้องเร่งหาสาเหตุ เพราะการถอดบทเรียน จะช่วยลดความเสี่ยงในอนาคต พร้อมตั้งสมมติฐานเบื้องต้น

1. ขั้นตอนและวิธีการรื้อพื้นถนน "การใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรสกัดพื้นออก ที่อาจไปกระทบโครงสร้างรับคาน ให้เสียหายสุดท้ายก็พลิกหล่นลงมาได้"

2. คานที่เคยรับน้ำหนักพื้นถนนกดทับ เมื่อรื้อพื้นเอาน้ำหนักกดทับออก คานอาจมีการคลายขยายตัว เคลื่อนตัว

3. ปัจจัย แรงลม จากพายุฝน รวมทั้งความชื้น อาจส่งผลให้คานมีน้ำหนักเพิ่ม หรือขยับได้เช่นกัน

4. แรงสั่นสะเทือนจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วิ่งอย่างหนาแน่น อาจเขย่าคานที่แขวน "ต่องแต่งอยู่" หลังจากสกัดพื้นยึดเหนี่ยวออก อาจทำให้ขยับก็เป็นไปได้

5. โครงสร้างคานเก่า อาจอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ แนะนำให้รีบตรวจคานอีก 4 คานที่ยังแขวนอยู่

6. ทุกปัจจัยที่สมมุติฐานนี้ อาจเกิดขึ้นพร้อมกัน นำไปสู่เหตุคานพลิกหล่นได้

และทิ้งท้ายว่า "หวังเหมือนกับคนไทยทุกคนว่า ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเสียที"




สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.เฉลิมเกียรติ วงศ์วนิชทวี รองศาสตราจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า การรื้อถอนอาจจะทำไม่ถูกหรือไม่? โดยใช้ประโยคที่ว่า "การรื้อถอนก็คล้ายกับการย้อนกลับของวิธีการก่อสร้าง" หมายถึง ถ้าสร้างเสา คาน พื้น เวลารื้อต้อง พื้น คาน เสา แต่กรณีนี้เป็นการรีโนเวท เป็นไปได้ว่า การรื้อปลดพื้นหรือส่วนอื่นๆ ที่รั้ง ทำให้น้ำหนักของพื้นที่ส่วนโค้งและแผงกันตกมากกว่าแรงต้าน ทำให้เสียสมดุลจนเกิดโศกนาฏกรรม


ขณะที่เมื่อวานนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน คือ นางสาวสุวรรณี รักท้วม หรือ อ้อ อายุ 40 ปี ซึ่งโดยสารมาในรถยนต์ และนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี คนงานที่ตกลงมาจากด้านบนสะพาน เดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และญาติของทั้ง 2 คน ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ร่างของคุณอ้อ นำมาสวดพระอภิธรรมศพที่วัดไทร ย่านบางขุนเทียน ญาติต่างร้องไห้ และกอดร่างของผู้เสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนสนิท ที่เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ ยังช็อก ทำใจไม่ได้ และคอยจับร่างของผู้ตายอยู่ตลอดเวลา


นายณรงค์ รักท้วม อายุ 67 ปี พ่อของคุณอ้อ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุลูกสาวกับเพื่อนจะไปส่งน้าสาวที่หอพัก อำเภอ สมุทรสาคร ระหว่างขับรถกลับ ประมาณ 19.45 น. ลูกสาวก็โทรศัพท์มาถามว่า จะกินอะไร จะซื้อไปฝาก แต่แม่เขาบอกว่าให้รีบกลับเพราะรู้สึกใจคอไม่ดี จากนั้นไม่ถึง 10 นาที เพื่อนลูกสาว ที่นั่งมาในรถ ก็โทรมาบอกว่า รถประสบอุบัติเหตุ ยอมรับว่าทำใจไม่ได้เพราะลูกสาว เป็นเสาหลักของครอบครัว และเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น


ด้าน นางสาวลักขณา จงศิริโรจน์กุล หรือ คุณกล้วย เพื่อนคนสนิทของคุณอ้อ ที่ขับรถในวันเกิดเหตุแล้วรอดมาได้ราวปาฏิหารย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุยังคุยกันเรื่องภาพยนตร์อยู่เลย ตอนนั้นรถติดเคลื่อนตัวไปช้าๆ แล้วอยู่ๆ คานของสะพานจะตกลงมาแล้วทุกอย่างก็หยุดลงหมด ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่มีสัญญาณของการเกิดเหตุ ไม่มีแม้เสียงของโครงสร้างที่แตกหัก


ส่วนร่างของนายชาญ ชาวทอง คนงานกรมทางหลวงที่เสียชีวิต ญาติได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดสว่างบ้านกุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางครอบครัววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในการจัดงานศพ เพราะทางบ้านฐานะไม่ดี


ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก ยงลิต ศุภพล รักษาการผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเกือบครบทั้งหมดแล้ว และพิสูจน์หลักฐานก็ได้ลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเรียบร้อย หลังจากนี้ต้องรอผลของพิสูจน์หลักฐานและสภาวิศวกร เพื่อสรุปว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และใครจะมีความผิดอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย ทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบการก่อสร้าง คือ ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) เข้ามาพูดคุยเจรจากับผู้เสียหายแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด



คุณอาจสนใจ

Related News