ตรวจสอบแล้ว! พ่อหายคาใจ เด็ก ม.2 ไม่ได้ทำร้ายรุ่นพี่สมองช้า พบเล่นกันล้มหัวฟาด เลือดคั่งดับ

พ่อใจแทบขาด ร้องลูกชาย ม.3 ถูกรุ่นน้อง ม.2 ตัวใหญ่กว่า ชกต่อยจนเสียชีวิต แต่ ร.ร.ปัดความรับผิดชอบ ล่าสุด ผอ.สพฐ.ตรวจสอบแล้ว ชี้ลื่นล้มหัวฟาดพื้น ไม่ใช่ถูกทำร้าย

จากกรณีที่นักเรียน ม.3 ถูกรุ่นน้อง ม.2 ทำร้ายร่างกาย จนเลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตในที่สุดนั้น นายธรรมรัตน์ อินต๊ะ อายุ 44 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลลูกชาย อยู่ที่วัดวังตาว ในอำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตรงข้ามกับโรงเรียนที่เกิดเหตุ

นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า ลูกชาย อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 ถูกรุ่นน้อง ชั้น ม.2 ตัวใหญ่กว่า ทำร้ายร่างกาย จนเลือดคั่งในสมอง รักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา และเวลาเที่ยงก็เสียชีวิตลง จนถึงขณะนี้ยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโรงเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้อง

ก่อนหน้าที่ลูกชายจะถูกทำร้าย เวลาประมาณเกือบเที่ยง ได้รับโทรศัพท์จากครู ว่าลูกหกล้มจากการเล่นกับเพื่อน ขอให้มาที่โรงเรียน เพื่อนำเด็กส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงปรากฏว่า ลูกถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงได้ตามไปดูอาการลูกชายที่โรงพยาบาล พบว่าใบหน้าและศีรษะบวม ไม่รู้สึกตัว แพทย์ให้เซ็นยินยอมผ่าตัดสมอง เพราะมีเลือดคั่ง และมาทราบภายหลังจากผู้อำนวยการโรงเรียนว่า ลูกไม่ได้หกล้ม แต่ถูกเด็กชายอีกคนชกต่อยทำร้ายร่างกายจนล้มกระแทกพื้น

เมื่อรู้เรื่องก็เสียใจมาก ลูกชายเป็นเด็กตัวเล็ก สมองช้า แต่มีจิตใจดี ตั้งใจเรียน จึงไม่เข้าใจว่า ครูดูแลเด็กอย่างไร ถึงปล่อยให้ถูกทำร้าย จึงได้ไปขอดูที่เกิดเหตุ พบเป็นลานปูนซีเมนต์ ซึ่งใต้ถุนอาคารเรียนมีกล้องวงจรปิด แต่ครูปฏิเสธไม่ให้ดู ขณะที่ทางตัวแทนของโรงเรียนได้มาร่วมงานศพ แต่ไม่ยอมพูดอะไร บอกเพียงว่ากำลังอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้อยู่

ล่าสุด คุณสุพรรณิกา ผาลาด ผอ.สพฐ.เขต 1 เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จกับ ผอ.โรงเรียน และคณะครู พร้อมกล่าวว่า ตอนนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้แล้ว และขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ซึ่งทางโรงเรียนมีภาพวงจรปิด ช่วงเกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนสาเหตุเกิดจากทั้ง 2 สอง วิ่งเล่นไล่จับแมลง แล้วเด็ก ม.3 เกิดเสียหลักลื่นล้ม หัวกระแทกพื้นอย่างแรง จนเกิดเลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการถูกรุ่นน้อง ม.2 ทำร้ายตามที่พ่อเด็กกล่าวอ้าง และทางโรงเรียนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่พ่อเด็กผู้เสียชีวิต เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายชกต่อยกัน

ด้านครอบครัวเด็ก ม.2 ที่ถูกกล่าวหา กล่าวว่า เป็นเรื่องของเด็กเล่นกัน และกลั่นแกล้งกัน จนเด็กที่ตายล้มลง ซึ่งตอนนี้ลูกชายสภาพจิตใจย่ำแย่มาก และทางครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวย เบื้องต้นได้มาช่วยเหลือเงินค่าทำศพ จำนวน 10,000 บาท ส่วนการเยียวยาเพิ่มเติมต้องรอตกลงพูดคุยหลังจัดงานศพเสร็จก่อน โดยหลังจากนี้จะให้ลูกชายบวช เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเพื่อนที่เสียชีวิต