เจ้าของบ้านผวา! หนุ่มป่วยจิตคลั่งรัก บุกป่วนปาระเบิดใส่บ้าน หลังหลานสาวไม่เล่นด้วย

หนุ่มป่วยจิตคลั่งรัก ส่งจดหมายบอกรักสาว บางวันขี่มอเตอร์ไซค์มาโวยวายอยู่หน้าบ้าน ล่าสุดถึงขั้นปาระเบิดใส่บ้าน เจ้าของบ้านสุดผวา โวยแจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้า

คลิปเหตุการณ์ที่เจ้าของบ้านถ่ายไว้ เผยภาพชายคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาที่หน้าบ้านของผู้เสียหายรายหนึ่ง อยู่ที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเข้ามาโหวกเหวกโวยวาย ก่อกวน แต่ฟังไม่ได้ศัพท์ พอเจ้าของบ้านที่ถ่ายคลิปเปิดประตูออกไป ชายคนดังกล่าวก็เดินหนีไปทันที

นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังมีคลิปเหตุการณ์ที่ชายคนดังกล่าวขี่รถมาป้วนเปี้ยนที่หน้าบ้านอีกหลายเหตุการณ์ สร้างความเอือมระอา และหวั่นวิตกให้กับผู้เสียหายและครอบครัวเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า บุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากแอบชอบหลานสาวตน เขียนจดหมายรักมาให้ วางดอกไม้ วางอาหารไว้หน้าบ้าน แต่หลานสาวไม่รับรัก ทำให้ผู้ชายคนนี้เข้ามาก่อกวนบ้านตนเองตลอดเวลา ทั้งขว้างมีด ปาระเบิดปิงปอง และล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ก่อเหตุปาลูกแก้วขนาดใหญ่ใส่ลูกชายของตน แต่โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ

โดยผู้ชายคนนี้อ้างว่าเป็นแฟนเก่าของหลานสาว ส่วนที่ตามรังควานลูกชายตน เพราะคิดว่าถูกแย่งแฟน ทั้งที่เขาเป็นญาติพี่น้องกัน ทั้งนี้รู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นอันตรายต่อครอบครัว คาดว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต เคยสอบถามครอบครัวผู้ก่อเหตุ ได้รับการยืนยันว่าเคยเข้ารับการรักษา และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่ไม่มีความคืบหน้า เพราะตรวจสอบแล้วมีความผิดปกติทางจิต จึงไม่สามารถทำอะไรได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปรักษา กลัวว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่บ้านของตนเอง แต่ทุกบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงล้วนหวาดระแวง

ทีมข่าวสอบถามไปที่ พันตำรวจเอก พิสิษฐ์ ชื่นเพ็ชร ผู้กำกับการ สภ.ถลาง กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เนื่องจากบุคคลที่ก่อเหตุมีปัญหาด้านสภาพจิต ไม่ใช่ไม่มีความคืบหน้า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ จึงได้เรียกครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาพูดคุยกับผู้เสียหายหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ตกลงกันได้มาตลอด สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายก็แยกย้ายเงียบหายกันไป จนมาล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเรื่องถูกปาระเบิด แต่ผู้เสียหายยังไม่สามารถตอบได้ว่ามีความเสียหายอะไรบ้าง

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้ทำงานอยู่เทศบาล หรือ อบต.แต่อย่างใด เป็นเพียงลูกจ้างรายวัน จึงอยากให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วย ทุกครั้งเมื่อเกิดเรื่อง เจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้เสียหายเสมอ แต่สุดท้ายฝ่ายผู้เสียหายก็เงียบหายไป