สังคม

หญิงบุรีรัมย์โผล่ขอโทษ รับเงินโอนผิดบัญชี เจรจาขอผ่อนจ่าย เจ้าของเงินไม่ไว้ใจ อยากได้คืนทั้งก้อน

โดย JitrarutP

19 พ.ค. 2565

375 views

ทนกระแสสังคมกดดันไม่ไหว หญิงชาวบุรีรัมย์กดเงินที่ถูกโอนผิดบัญชีเกือบ 3 แสนบาทไปใช้ เปิดหน้ายอมรับผิดแล้ว เตรียมเจรจาเจ้าของเงินขอผ่อนจ่ายค่าเสียหาย ล่าสุดยังอ้างไม่กล้าออกจากบ้านเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ เพราะกลัวนักข่าว

จากกรณี น.ส.วิราวรรณ อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจอาหารแช่แข็งชาวสมุทรสาคร ออกมาร้องเรียน หลังโอนเงินร่วม 3 แสนบาทให้คู่ค้า แต่ดันกดเลขบัญชีผิดไป 1 ตัว ทำให้เงินเข้าบัญชีของ นางเสาวณีย์ อายุ 44 ปี ชาวบุรีรัมย์ พอรู้ตัวก็รีบติดต่อธนาคารเพื่ออายัดเงิน ทั้งโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ ทั้งไปที่สาขา แต่กลับโยนกันไปมา และให้ไปแจ้งความ สุดท้ายได้แค่รับเรื่องไว้ เพื่อให้ส่งให้สำนักงานใหญ่พิจารณาเรื่องอายัดเงิน ขณะเดียวกันต้องวิ่งหาข้อมูลนางเสาวณีย์เอง จนทราบว่านางเสาวณีย์กดเงินไปใช้หมดแล้ว และสามารถตามเงินคืนได้เพียง 160,000 บาท โดยนางเสาวณีย์บอกว่า ไม่มีเงินจ่ายที่เหลือแล้ว โดยยอมติดคุก

จากนั้นนางเสาวณีย์ก็หายตัวไป ไม่ยอมเจรจากับผู้เสียหาย ส่วนสามีของนางเสาวณีย์ บอกว่า ไม่รู้ว่าเงินที่ภรรยานำมาใช้เป็นเงินที่คนอื่นโอนผิดมา เพราะภรรยาบอกว่า เป็นเงินมรดกที่พี่สาวโอนให้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะโลกโซเชียล ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ออกมารุมประณามนางเสาวณีย์ ให้ออกมารับผิดชอบ

ทำให้นางเสาวณีย์ ยอมออกมาเปิดปากทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าวแล้วว่า รู้สึกผิด และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิดทุกกรณี ที่ผ่านมารู้สึกเป็นจำเลยสังคม อยู่อย่างลำบากแทบฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ได้โทรศัพท์หาเจ้าของเงินแล้ว เบื้องต้นจะเอาทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ที่ลูกสาวเอาเงิน 20,000 บาทไปปิด มาเข้าไฟแนนซ์ แล้วจะคืนให้เจ้าของเงินทันที ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 110,000 บาท จะขอทำงานผ่อนจ่ายให้ และอยากจะฝากถึงผู้ที่คิดจะทำแบบตน ให้เลิกคิด เงินของเขายังไงก็เป็นของเขา

ด้าน น.ส.วิราวรรณ เจ้าของเงิน บอกว่า นางเสาวนีย์ โทรศัพท์มาขอโทษ และขอโอกาสกลับตัว พร้อมเสนอจะนำมอเตอร์ไซค์ไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วจะโอนเงินมาให้ 20,000 บาทก่อน ที่เหลือจะทยอยผ่อนให้ ซึ่งตนรับขอโทษ แต่ยังติดใจกับคำพูดแบบขวานผ่าซากว่า "ใช้เงินหมดแล้ว จะยอมติดคุก" จึงขอเจรจาต่อหน้าตำรวจ อยากเห็นสีหน้าแววตาว่าจริงใจหรือไม่ ตอนนี้อยากได้คืนทั้งก้อน ไม่อยากรอเขาผ่อนแล้ว เพราะเขาไม่จริงใจแต่แรก และยังไม่บอกไม่ได้ว่าจะมีกรอบในการผ่อนถึงเมื่อไหร่ แต่ก็จะให้โอกาสเขามาคุยจนกว่าหมายของตำรวจจะออก

ล่าสุด น.ส.วิราวรรณ ได้โทรศัพท์ไปคุยกับนางเสาวณย์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการคืนเงิน นางเสาวณีย์ บอกว่า ยังไม่ได้เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวนักข่าวมาถามนั่นถามนี่แล้วตอบไม่ได้ และยังกังวลว่า มีข่าวออกไปแล้วว่า ตนเองนำเงินของคนอื่นไปปิดค่างวด แล้วจะเอารถคันนั้นไปเข้าไฟแนนซ์ จะมีไฟแนนซ์ที่ไหนกล้ารับรถ

คุณอาจสนใจ