อวสานอาหารทุกมื้อ! เตรียมฝากขัง 'พระบิดาแห่งจักรวาล' ลูกศิษย์ฮือไล่จนท. กินบ่อฉี่โชว์นักข่าว

สาวขอนแก่นร้องหมอปลา ช่วยพาแม่วัย 80 ปี ออกจากลัทธิประหลาด กินฉี่ ขี้ไคล เสมหะของเจ้าลัทธิที่อ้างตัวเป็นพระบิดาสูงสุดแห่งจักรวาล (พ่อทุกสถาบัน) อ้างเป็นยา หรือ มโหสถ รักษาได้ทุกโรค เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสำนักยิ่งช็อก เจอศพปริศนาถึง 11 ศพ ล่าสุด ตำรวจเตรียมส่งพระบิดาฝากขังวันนี้ พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา

เมื่อวานนี้คุณนฤชา กมุทโยธิน ผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ตามทีมงานหมอปลา ตำรวจ สภ.คอนสาร พาผู้เสียหายบุกไปที่สำนักแห่งหนึ่งที่ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เพื่อไปตามหายายน้อย วัย 80 ปี ที่ไม่ยอมกลับบ้านมานานนับปี เพราะเชื่อว่าผู้ชายผมยาวในภาพนี้ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็น พระเมตยะ เป็นพระบิดาสูงสุดแห่งจักรวาล

ระหว่างนั้นลูกศิษย์คนหนึ่งกรีดร้องโวยวาย ลักษณะคุมตัวเองไม่ได้ พยายามบอกว่า พระบิดาที่พวกเขาศรัทธา คือ ผู้สร้างโลก ใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธ พระอัลเลาะห์ในศาสนาอิสลาม และพระเยซูในศาสนาคริสต์ เป็นผู้ที่ครองโลกใหม่อนาคต

จากนั้นลูกศิษย์อีกคนพาผู้สื่อข่าวไปดูหลุมมโหสถ ซึ่งเป็นหลุมเล็ก ๆ ที่ขุดไว้ เป็นหลุมฉี่ของพระบิดา พร้อมกับโชว์ กินฉี่ ตักฉี่มาลูบหน้า พร้อมบอกว่า สิ่งปฏิกูลทั้งหลาย ในร่างกายพระบิดา เช่น ฉี่ที่พระบิดาฉี่ไว้ในหลุมเล็กๆ และขี้ไคล หรือแม้แต่เสมหะ

ทุกอย่างที่ออกมาจากร่างกายพระบิดา คือ มโหสถ เปรียบเสมือนยารักษาโรคได้ทุกโรค ซึ่งพระบิดาตอนนี้ไม่ได้อาบน้ำมา 9 เดือนแล้วด้วย พอฉี่และขี้ไคลออกมา ลูกศิษย์รีบแบมือเข้าไปรับและกินอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีนักข่าวพิสูจน์กลิ่นที่รักแร้ของพระบิดาด้วย

ขณะเดียวกันหมอปลาได้ข้อมูลมาว่า สำนักแห่งนี้เก็บศพไว้ถึง 11 ศพ จึงเดินออกสำรวจโดยรอบ ปรากฏว่ามีลูกศิษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง เดินมายิ้มแย้มทักทายกับหมอปลา ซึ่งหมอปลาก็พูดคุยพร้อมบอกให้พาไปที่เก็บศพ ลูกศิษย์บอกว่าเก็บไว้หลายที่ แล้วทำทีควงแขนจะพาไป แต่หมอปลาชะงัก เพราะถูกหยิกที่แขน จึงมีการประทะคารมกัน แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่าแค่หยอกเฉย ๆ

จากนั้นคุณนฤชา ไปเจอศพอยู่ในศาลากลางสำนัก นับแล้วมี 11 ศพ ในจำนวนนี้มีศพเด็ก 1 ศพ ซึ่งเป็นศพของลูกศิษย์ที่เลื่อมใสและมาปฏิบัติอยู่ที่นี่จนเสียชีวิต แต่พระบิดาไม่ให้นำศพออกไปทำพิธี อ้างว่า เมื่อเข้าปฏิบัติถือว่าอุทิศตัวให้พระบิดาแล้ว จะทำอะไรกับร่างเหล่านี้ก็ได้ โดยบอกว่าศพเด็กกำลังรอการขึ้นสวรรค์ ส่วนศพที่อยู่ในโรงแก้ว คือ แม่ของพระบิดา

ทั้งนี้ลูกศิษย์ก็จะนอนกันอยู่ในศาลาร่วมกับศพด้วย ซึ่งภายในศาลาสกปรกมาก หลังคาเต็มไปด้วยหยากไย่ และข้าวของหักพังวางกองอยู่กลางศาลา ส่วนเรื่องกลิ่น คุณนฤชา บอกว่า ไม่พึงประสงค์ อยู่นานแล้วจะอ้วก แต่ลูกศิษย์บอกว่า ที่คนเข้ามาและรู้สึกเหม็นเพราะว่า จิตไม่ดี ถ้าจิตดีจะหอมเหมือนกลิ่นมะลิ

นอกจากนี้ ลูกศิษย์ได้ให้ข้อมูลเรื่องการจัดการศพกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน แต่จะใส่ยาเส้นและใบฝรั่งลงไปในโลงเพื่อดับกลิ่น ส่วนน้ำเหลืองจะต่อสายยางให้น้ำเหลืองไหลลงมาในถุง แล้วจะนำมาล้างหน้าเพื่อความเป็นสิริมงคลและรักษาโรค

ยืนยันว่า เรื่องศพทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและระบบสาธารณสุข และไม่ยอมให้เปิดโลงพิสูจน์ศพด้านใน แม้ว่าจะมีตำรวจเข้ามาด้วย โดย อ้างว่า ให้ไปขอหมายและแจ้งสาธารณสุขก่อน จากนั้นก็ต้องทูลขออนุญาตจากพระบิดา

ส่วนผู้ร้องเรียนได้ไปเจอยายน้อย คุณแม่ วัย 80 ปี ยายน้อยต่อว่า ลูกสาวและหลานตัวเองว่า ทำไมถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่และยืนยันว่าอยากจะอยู่ที่นี่จนตาย และตัวเองมีลูกสาวอยู่ที่นี่ด้วย เป็นลูกสาวในอดีตชาติตามที่พระบิดาบอก

ซึ่ง ลูก ๆ หลาน ๆ ต่างขอร้องให้กลับบ้าน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพ การที่มากินฉี่ กินอะไรอยู่ที่นี่ อาจจะทำให้โรคประจำตัวรุนแรงมากขึ้น แต่ยายน้อยไม่ยอมกลับ จนเจ้าหน้าที่ต้องมาช่วยเจรจา ยายน้อยยอมกลับบ้าน

ต่อมนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 10 นาย นำกำลังเข้าไปเชิญตัวนายทวี หรือ โจเซฟ อายุ 74 ปี ที่อ้างตัวเป็นพระบิดาสูงสุดแห่งจักรวาล ไปสอบปากคำที่ สภ.คอนสาร ทำให้ลูกศิษย์กว่า 20 คน กรูกันเข้ามาปกป้อง ตะโกนโหวกเหวกขอดูหมายศาล และพยายามเข้ามาดึงตัวพระบิดา จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น

เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวพระบิดา ฝ่าวงล้อมลูกศิษย์เพื่อนำตัวขึ้นรถตำรวจไปยังโรงพัก โดยบรรดาลูกศิษย์ต่างวิ่งไล่ และตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ บ้างก็ร้องไห้ บอกว่า "จับพ่อกูไปทำไม หมายจับ หมายศาลอยู่ไหน" กระโดดตามขึ้นรถแบบไม่กลัวตาย และตามมาจนถึงโรงพัก จนต้องเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่มาเพิ่มเพื่อป้องกันเหตุชุลมุนเกิดขึ้นอีก

นายไกรสร บอกว่า ไม่รู้มาก่อนว่าในพื้นที่มีสำนักนี้ เบื้องต้นมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และการบุกรุกป่าสาธารณะ ขณะเดียวกันจะเรียกสอบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ตั้งแต่นายอำเภอ, อบต., ผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน เนื่องจากสำนักอยู่ห่างจาก อบต.ดงกลาง เพียง 200 ถึง 300 เมตร แต่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนบรรยากาศที่ สภ.คอนสาร ยังมีลูกศิษย์ลูกหาตามไปให้กำลังใจและยังนำชุดฤาษีไปให้ จนเจ้าหน้าที่ต้องวางกำลังป้องกัน หวั่นเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนที่สำนัก

ล่าสุดวันนี้ตำรวจเตรียมนำนายทวี ส่งฝากขังที่ศาลช่วงบ่าย พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา คือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และข้อหาบุกรุกป่า เท่าที่เห็นเบื้องต้น พระบิดาไม่มีความกังวล ขณะเดียวกันมีญาติ ๆ เอาเอกสารไปยื่นแสดงตัวตนกับศพในสำนักด้วย

อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับชาวบ้านใกล้กับสำนัก บอกว่า สำนักแห่งนี้มาตั้งได้ประมาณ 3-4 ปี ในพื้นที่ป่าสาธารณะเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ มีลูกศิษย์อยู่ประมาณ 30-40 คน มีโรงครัวเป็นของตัวเอง เลี้ยงกวาง เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ มีโอ่งใส่ยาดองที่ลูกศิษย์จะใช้ดื่มเพื่อรักษาโรค นอกจากนี้ยังมีการทำกับข้าว แพ็คอาหารแห้ง ออกขายตามหมู่บ้าน

สำหรับพระบิดา ตอนแรกมาในลักษณะเป็นพระสงฆ์นุ่งห่มจีวร มาขอสร้างสำนักสงฆ์ ชาวบ้านก็ยินดีและยังเข้าไปกราบไหว้ทำบุญ แต่พออยู่ไปอยู่มารู้สึกว่าหลักคำสอนผิดเพี้ยนไปจากพระพุทธศาสนา คนเฒ่าคนแก่ บอกว่า ถ้าต้องกินฉี่ กินขี้ไคล เสมหะ น้ำเหลือง ขอไปหาหมอปัจจุบันดีกว่า และรู้สึกกลัว หลังจากที่พระบิดาไม่ห่มจีวรแต่นำผ้าลายเสือมานุ่งห่มเป็นฤาษี ผมไม่ตัด น้ำไม่อาบ

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น ไปที่บ้านของนายทวี อยู่ที่อำเภอหนองเรือ ไปเจอนายสมพงษ์ อายุ 75 ปี อาเขย และนางจันทา อายุ 68 ปี อาของนายทวี บอกว่า

เพิ่งทราบเรื่องหลังจากที่หมอปลาไปบุกสำนัก ก่อนหน้านี้รู้แค่ว่า นายทวีไปทำงานที่ กทม. และกลับมาบวชเป็นพระ โดยมีแม่เป็นโยมอุปัฏฐาก ผ่านไปประมาณ 4 ปี ทราบว่าเปลี่ยนมาห่มผ้าฤาษี และมีสำนักอยู่ที่ชัยภูมิ มีพฤติกรรมทำนาย หยั่งรู้ดินฟ้า และแก้มนต์ดำให้ชาวบ้าน ซึ่งตนก็เชื่อในเรื่องนี้

ตอนที่หมอปลาเข้า ตนเชื่อว่าฤาษีทวี รู้ล่วงหน้าแต่ไม่หนี ให้เป็นไปตามกระบวนการของทางเจ้าหน้าที่ เรื่องศพของแม่ฤาษี น้องชายนายทวี เคยไปขอศพแม่กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาแต่ฤาษีทวีไม่ให้