'ทนายเดชา' โพสต์ให้ปักหมุดรอ 'จ๊อบ-กระติก' เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันนี้

วานนี้ (3 เม.ย.) เฟซบุ๊กของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความแม่แตงโม โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ "ทนายคลายทุกข์" ว่า "เรียนพี่น้องสื่อมวลชนพรุ่งนี้ 13.00 น. จ๊อบ รับทราบข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 119 และ ปอ.มาตรา 184 ส่วนกระกรติก 16.00 น. รับทราบข้อกล่าวหา ปอ.มาตรา 172 #แตงโมต้องไม่ตายฟรี"



ขณะเดียวกัน ทนายเดชา ยังได้ออกมาไลฟ์สดเผยความคืบหน้าคดีแตงโม โดยช่วงหนึ่งได้บอกว่า จ๊อบต้องมารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 คือ ทำลายพยานหลักฐาน เพื่อไม่ให้ผู้อื่นต้องรับโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และอีกข้อหาตาม พ.ร.บ.เดินเรือในแม่น้ำไทย มาตรา 119 ข้อหาเกี่ยวกับการทิ้งแก้ว ทิ้งขวดไวน์ ขวดเหล้าลงทะเล และแม่น้ำ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน



ส่วนกระติก ผู้ต้องหาบนเรือคนสุดท้าย จะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 คือ แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ผิดไปจากความจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี



พร้อมระบุว่า ทุกคนบนเรือโดนดำเนินคดียกลำ ไม่มีใครรอด ยกเว้นว่าทุกคนพูดความจริง ถึงจะรอด ขอให้เชื่อตนว่า พูดอะไรต้องเป็นแบบนั้น ตนช่วยเหลืองานตำรวจเต็มที่ ทุกคนต้องได้รับกรรมที่ก่อไว้ ทุกการกระทำต้องมีผลตามมา



ล่าสุดเช้าวันนี้ ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ไปพูดคุยกับทนายเดชา ยังยืนยันว่า สุดท้ายแล้วทุกคนบนเรือจะได้รับโทษทุกคน เพราะต่างคนต่างประมาท โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี หากสู้คดีจะติดคุกเเน่นอน เเต่หากรับสารภาพ เเล้วชดใช้ค่าเสียหาย โทษก็อาจเบาลง อาจรอลงอาญา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล



สำหรับพวกกุนซือ หรือคนเขียนสคริปต์ ที่มีความรู้ทางกฎหมายแต่กลับไปวางแผนให้ผู้ต้องหาบนเรือไปพบ พนักงานสอบสวนช้าๆ เพื่อให้แอลกอฮอล์หรือสารเสพติด (ถ้ามีอยู่จริง) จางหายไป และให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มาล้อมวงเพื่อเตี๊ยม เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความวุ่นวาย อาจจะได้รับหมายเรียก หรือหมายจับในสัปดาห์หน้า



เพราะตำรวจได้รับข้อมูลในทางลับ ว่ามีการบิดเบือนความจริง ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน ดังนั้นคนที่ให้การเเนะนำจะโดนดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ

1."เป็นผู้จ้างวานใช้ให้ผู้อื่นเเจ้งความเท็จเกี่ยวกับคดีอาญา ผิดไปจากข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงาน" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 มีโทษจำคุก 2 ปี

2."จ้างวานใช้ให้ทำลายพยานหลักฐาน เพื่อช่วยหลือบุคคลอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 มีโทษจำคุก 5 ปี



ส่วนกรณีทนายตั้มที่ออกมาเคลื่อนไหว ตนเองก็มีการพูดคุยกันตลอด เเละได้สอบถามทนายตั้มเเล้ว ว่าได้เป็นกุนซือหรือไม่ ทนายตั้มตอบว่าไม่ได้เป็น เเละตนก็ไม่เคยพูดหรือกล่าวหาว่าทนายตั้มเป็นกุนซือด้วย ส่วนคนให้คำเเนะนำจะเป็นใคร รอติดตามสัปดาห์หน้า เชื่อว่าตำรวจมีข้อมูล



ทนายเดชา ยังกล่าวถึงข้อสันนิษฐานของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเเตงโมตกบริเวณหัวเรือ เพราะภาพวงจรปิดจากท่าเรือเอกชน พบมีเงาคนยืนอยู่หัวเรือ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนได้รับข้อมูลจากตำรวจทราบว่าแตงโม ไม่ได้ตกหัวเรือแน่นอน 100% ส่วนจะตกที่ท้ายเรือหรือไม่ มีความเป็นไปได้สูง



ดังนั้นตนจึงรู้สึกเป็นห่วงนายอัจฉริยะ เนื่องจากมีคดีเก่าอยู่หลายคดี หากยังเข้าไปแจ้งความไว้ที่กองปราบ และข้อมูลเป็นเท็จอาจถูกดำเนินคดี เพราะข้อมูลของนายอัจฉริยะไม่เป็นความจริง หากมีหลายๆคดี ติดคุกนาน แล้วลูกเมียจะอยู่อย่างไรใครจะดูแล คนแบบนี้น่าสงสาร ดูจากแววตา เพื่อนฝูงก็ไม่มี หากติดคุกตนจะเอาโอเลี้ยงและข้าวผัดไปเยี่ยม ฝากถึงพวกหิวแสง ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้รอรับหมายศาล



ส่วนนางภนิดา เเม่ของเเตงโม หลังจากทราบข้อหาที่ตำรวจเเจ้งกับคนบนเรือ ก็รู้สึกพึงพอใจ การทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะทราบดีว่าทำงานเต็มที่ ซึ่งเหตุการณ์บนเรือเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ฆาตกรรม ส่วน ปอ กับโรเบิร์ต ก็มีการโทรติดต่อหาเเม่ตลอด เเต่ไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องคดี เพียงเเต่บอกว่าไปทำบุญที่ไหนมาบ้างเท่านั้น