อธิบดีดีเอสไอ เรียกทีมแพทย์ผ่าแตงโมดูข้อเท็จจริง ก่อนรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ดีเอสไอ เรียกทีมแพทย์ผ่าแตงโม ประชุมพิจารณาด่วน เพื่อดูข้อเท็จจริง และการเข้าเงื่อนไขการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ยอมรับหากตำรวจสรุปสำนวนส่งอัยการ ดีเอสไอสิ้นสุดอำนาจทันที

นาย ไตรยฤทธ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เชิญคณะแพทย์จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ประชุมเรื่องผลการชันสูตรศพของแตงโมว่ามีอะไรน่าสงสัย และจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่


นาย ไตรยฤทธ์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้นั้นเป็นไปตามข้อร้องเรียน ซึ่งผู้ร้องเรียนมองว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นการฆาตกรรมอำพราง / มีผู้มีอิทธิพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน / เบี่ยงเบนประเด็นการชันสูตรการเสียชีวิต และรายละเอียดของคดีมีความซับซ้อนน่าสงสัย เหมือนจงใจทำให้คดีนี้เป็นอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดนั้น จึงมีการเรียกทีมแพทย์ผ่าชันสูตรคุณแตงโมทั้ง 2 รอบ มาประชุมและให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ เป็นครั้งแรก


ส่วนครั้งต่อไปจะมีการร้องขอพยานหลักฐานจาก สำงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประกอบสำนวนการประชุม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินเดือนเมษายน 2565 ก่อนมอบให้คณะอนุกรรมการพิจารณา และส่งไปยังคณะกรรมการที่มีนายวิษณุ เครืองาม ประธานคณะกรรมการคดีพิเศษชุดใหญ่ พิจารณา ก่อนสรุปว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ



สำหรับคดีที่จะเข้าเป็นคดีพิเศษ ต้องเข้าเงื่อนไข 5 ข้อ คือ คดีมีความซับซ้อน ต้องรวบรวมหลักฐานจำนวนมาก / คดีมีความกระทบต่อสังคม / กระทบความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง / เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ / มีผู้มีอิทธิพล และนายพลอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะต้องประมวลจากข้อเท็จจริงที่ปรากฎ


แต่หากมีการสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการก่อนที่ดีเอสไอรับพิจารณาเป็นคดี ก็ถือว่าตัดอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอไปทันที เว้นมีอัยการเห็นว่าควรต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมใหม่ ทางดีเอสไอก็มีสิทธิรับเป็นคดีพิเศษ



ขณะที่วันนี้ นางสาว รสนา โตสิตระกูล ผู้ที่ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอรับคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโม นิดา เป็นคดีพิเศษ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการประชุม พร้อมยืนยันว่า แม้ทางแม่และครอบครัวของนักแสดงสาวไม่เห็นด้วย กับการให้ดีเอสไอรับทำคดีนี้ แต่จะเดินหน้าเรียกร้องต่อ เพราะเป็นคดีการเสียชีวิตที่กระทบต่อความมั่นคงภาพรวม เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่เป็นคดีที่ครอบครัวเป็นผู้เสียหายเท่านั้น



คดีนี้ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตและต้องการพิสูจน์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการทำคดีว่าเป็นไปอย่างยุติธรรมไม่ ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และการพิจารณาของคณะกรรมการ