สังคม

จับ 1 ผู้ต้องสงสัย ปล้นเดือดร้านทองกลางเมืองพบพระ อีก 2 หนีกบดานเมียนมา

โดย nicharee_m

16 ก.พ. 2565

107 views

ความคืบหน้ากรณีปล้นร้านทองในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้ทองไป 182 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานว่าจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน คาดมีผู้ร่วมขบวนการ 4 คน เป็นทีมปล้น 3 คน พาหนีอีก 1 คน

นี่เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยภาพวงจรปิดขณะคนร้าย 3 คน บุกเข้าไปปล้นภายในร้านทองกรุงเทพ 4 กลางอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนร้ายขับรถกระบะเข้ามาที่หน้าร้านตอนบ่าย 14.06 น. ซึ่งขณะนั้นในร้านมี 2 สามีภรรยากำลังเลือกซื้อทองอยู่

จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น แล้วเจ้าของร้านก็ล็อคประตูทันที ทำให้ลูกค้า 2 คน ไม่สามารถเปิดประตูได้ และเข้าไปหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ร้านทอง จากนั้นคนร้ายลอดกระจกที่แตกเข้ามาเอาถาดในสร้อยทองในตู้ไป และกลับออกไปนอกร้าน โดยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที ได้ทองคำไป 182 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

ขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าคนร้ายที่ร่วมปล้น คือ นาย คึ อายุ 22 ปี นาย เต๋อ อายุ 23 ปี และ นาย เก้อย่าง อายุ 31 ปี ทั้งหมดเป็นชาวม้งมีทั้งบัตรชาวเขาพื้นที่สูง มีบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรเลข 0) และมีบัตรประชาชนของฝั่งประเทศเมียนมาด้วย

เบื้องต้นทราบว่ายังกบดานอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง เขตจังหวัดเมียวดี มีรายงานข่าวล่าสุดว่าขณะนี้ตำรวจได้ตัวผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุปล้นแล้ว 1 คน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่า เป็นคนที่ร่วมปล้นหรือพาหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างขอศาลอนุมัติหมายจับ

ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านรวมไทยพัฒนา ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ที่ถูกระบุว่าเป็นบ้านพักของ 3 ผู้ต้องสงสัยที่ร่วมปล้น ซึ่งมีชาวบ้านบางคนบอกว่าเคยเห็นหน้า 1 ในคนร้าย บอกว่าพ่อแม่เขามาสร้างบ้านอยู่ที่หมู่บ้านนี้ แต่จะมาอยู่นานๆ ที เพราะเป็นคนฝั่งเมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว แต่ก็ไม่ได้เห็นคนร้ายมานานมากแล้ว

และยังบอกด้วยว่าตอนที่เห็นคลิปคนร้ายเข้าไปปล้นทอง ยังตกใจ เพราะเสื้อที่คนร้ายใส่เป็นเสื้อของร้านขายของเกษตรของเธอ ซึ่งจะแจกให้ลูกค้าเวลามาซื้อของเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกัน

ทีมข่าวยังเข้าไปสำรวจที่บ้านของ 1 ในผู้ต้องสงสัย พบว่าปิดเงียบไม่มีคนอยู่ ส่วนเพื่อนบ้านใกล้กันให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้ คนฝั่งเมียนมามาปลูกทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก คนลูกน่าจะวัยประมาณ 20-30 ปี แต่ก็จะไม่ได้ค่อยได้มาอยู่ ส่วนมากจะอยู่ฝั่งเมียนมา และจะข้ามมานานๆ ที

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เจอกับร้านเสื้อผ้าที่ให้เบาะแสว่าช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุปล้นทอง ได้มีชาวม้งมาซื้อกระเป๋าที่ร้านไป 2 ใบ โดยลักษณะของกระเป๋าคล้ายกับกระเป๋าที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเข้าไปปล้นทองด้วย แต่ทางร้านปฏิเสธที่จะคุยกับทีมข่าว โดยอ้างว่าให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว

พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับคนร้ายทั้ง 3 คน ซึ่งคนร้าย 2 ใน 3 คน ขณะนี้ชุดสืบสวนพบว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในชุมชนที่ฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งทางการไทยได้ประสานส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้นำรัฐกะเหรี่ยงและผู้นำเมียนมา เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตามตัวคนร้าย แต่ก็ยังคงกระจายกำลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาและปิดล้อมพื้นที่ในฝั่งประเทศไทยด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจ