สังคม

'เต่า หน้ายักษ์' สำนึกผิด ขอโอกาสสังคมให้อภัย ลำบากตกงานไม่มีเงินใช้ ต่อไปจะไม่ทำอีก

โดย nicharee_m

8 ก.พ. 2565

383 views

'เต่า หน้ายักษ์' ไรเดอร์กร่าง สำนึกผิด ขอสังคมให้อภัย หลังขี่มอเตอร์ไซค์ชนคนบนฟุตบาทแล้วทำร้ายร่างกาย ยันลำบากตอนนี้ตกงาน ขณะที่ผู้บาดเจ็บ เตรียมไปร้องกระทรวงยุติธรรม ขอรับชดเชยเงินเยียวยาบ่ายนี้

ภาพเหตุการณ์ ขณะที่นายอิศรา ราษฎร์ทองหลาง ถูก นายบุญฤทธิ์ ทองเอี่ยม ฉายา เต่า หน้ายักษ์ ซึ่งเป็นไรเดอร์ แอพพลิเคชันส่งอาหารแห่งหนึ่ง ชกต่อยและเตะซ้ำ จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ฟุตบาทปากซอยสายไหม 78

โดยเรื่องทั้งหมด มาจากที่ นายอิศรา ผู้บาดเจ็บ ได้ไปซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างที่บริเวณดังกล่าว และ ได้เดินออกมาหน้าร้านตรงฟุตบาท จากนั้น นายบุญฤทธิ์ ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาบนทางเท้า และเฉี่ยวชนนายอิศรา

จากนั้นทั้งสองคนได้มีปากเสียงกัน โดยนายบุญฤทธิ์ นอกจากจะไม่ขอโทษที่ชนนายอิศราแล้ว กลับเดินมาต่อว่า นายอิศรา ว่า เดินไม่ดูอะไรเลย นายอิศรา โต้ตอบกลับไปว่า ตรงนี้เป็นทางเท้า แต่นายบุญฤทธิ์บอกว่า รู้แล้วว่าเป็นทางเท้า แต่มึงเดินไม่ดูอะไรเลย มึงไม่จบใช่มั้ย

นายอิศรา จึงบอกว่าจะแจ้งตำรวจและกดโทรศัพท์มือถือ แต่กลับถูกนายบุญฤทธิ์ ทำร้ายร่างกาย โดยชุดแรกนอกจากจะทั้งเตะทั้งต่อย และเตะตัดขานายอิศรา จนล้มหัวฟาดพื้นแล้วยังตามเข้าไปเตะซ้ำแล้ว นายบุญฤทธิ์ยังจับนายอิศราทุ่มลงกับพื้น แล้วเตะเข้าที่เข้าที่บ้องหู จนนายอิศรา ถึงกับนอนนิ่งกับพื้น จากนั้นนายบุญฤทธิ์ ได้ขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป

หลังเกิดเหตุ นายอิศรา ได้ไปแจ้งความ ที่ สน.สายไหม โดยพบว่าได้รับบาดเจ็บ ตามร่างกาย ซึ่งเป็นแผลถลอก กกหูและใต้ตาด้านซ้ายฟกช้ำ ระหว่างนั้น มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหา บอกว่าไม่ให้เอาเรื่อง เพราะไม่มีเงิน แต่นายอิศรา ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมถึงยังได้ประสานไปขอความช่วยเหลือที่เพจสายไหม ต้องรอด อีกทางหนึ่ง

สุดท้าย 6 โมงเย็นวานนี้ นายบุญฤทธิ์ ได้มามอบตัวกับตำรวจ สน.สายไหม เพื่อรับทราบข้อหา ทำร้ายร่างกาย และ ขับรถบนทางเท้า และได้ยกมือไหว้ขอโทษนายอิศรา โดยบอกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันตั้งใจจะขอโทษตั้งแต่แรก แต่มีปากเสียงกันก่อน จึงลงมือก่อเหตุ

ขณะที่เพจ Robinhood Delivery โพสต์แถลงการณ์ชี้แจง ยืนยัน นายบุญฤทธิ์ ไม่ได้เป็นไรเดอร์ในระบบของ Robinhood แต่นำไอดีของเพื่อนที่เป็นไรเดอร์มารับงานในช่วงเวลาเกิดเหตุ

ซึ่งบริษัทได้ปิดระบบถาวรกับคนขับผู้ให้ยืมไอดีแล้ว และจะพิจารณาฟ้องร้องและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุ รวมถึงไรเดอร์ที่เป็นเจ้าของไอดี เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง และในวันอังคารนี้ทาง Robinhood จะเข้าเยี่ยมผู้เสียหายและเสนอมาตรการเยียวยา

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่ตลาดวงศกร สายไหม จุดนี้เป็นจุดที่นายเต๋า จะมานั่งรอรับงาน เพื่อออกไปวิ่งงาน รับส่งอาหารตามที่ลูกค้าสั่ง แต่วันนี้นายเต๋า ไม่สามารถวิ่งงานได้แล้วเนื่องจากสวมสิทธิ์ใช้ชื่อของเพื่อนในการวิ่งไรเดอร์ และบัญชีถูกต้นสังกัดแบนด์ถาวร

ผู้สื่อข่าวของเราคุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ได้พุดคุยกับนายบุญฤทธิ์ บอกว่า หลังจากที่ก่อเหตุสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของตนเป็นอย่างมาก ตนรู้สึกเสียใจ และยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต เพราะไม่มีงานทำแล้ว รถต้องถูกยึด ถูกดำเนินคดีรวมทั้งถูกทางแอพพลิเคชันโรบินฮูดฟ้องร้อง ตอนนี้ชีวิตมืดไปหมดทุกทางแล้ว มีเงินเหลือติดตัวอยู่เพียง 1,000 บาท

ปกติต้องวิ่งงานทุกวันตั้งแต่ 06.00-23.00 น. โดยไม่มีเวลาพักเลย ซึ่งในแต่ละวัน ต้องนำมาใช้จ่าย ค่ารถ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งต้องส่งเงินให้ลูกฝาแฝด 2 คน ซึ่งตอนนี้อยู่กับภรรยาเก่า

ต้องส่งเงินให้เดือนละ 3,000-4,000 บาท ตอนนี้เงินกินข้าวยังไม่พอ อยู่ได้ไม่เกิน 5 วัน ยังไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไร ไปสมัครงานก็ติดตรงที่ตนมีรอยสักทั่วตัว อยากขอโอกาสสังคมให้อภัย

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ในวันนี้ จะพานายอิสรา ไปยื่นหนังสือ ถึง ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสอง ประเด็น คือ ขอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเพิ่มโทษต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรรวมถึงการฝ่าฝืนขับขี่รถบนทางเท้า และขอรับสิทธิ์ จากกองทุนยุติธรรมหลังนายอิสราตกเป็นเหยื่อในคดีอาญา

ส่วนนายอิศรา ตั้งแต่ช่วงเช้าได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำผลการตรวจไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อหากับนายบุญฤทธิ์ต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News