สังคม

ดรามาระลอกใหม่ หุ้นส่วนโอมากาเสะเหยียดลูกค้า แฟนเก่าแฉ ยืมเงินไม่คืน

โดย nicharee_m

4 ก.พ. 2565

145 views

กรณีดรามายูทูบเบอร์ แจ็ก แปปโฮ ขึ้นเหยียบโต๊ะร้านโอมากาเสะ ซึ่งเจ้าตัวออกมาแจงประมาณว่า คนที่เอาคลิปมาแชร์เหมือนต้องการเกาะกระแส เวลาทำเรื่องดีๆ ทำไมไม่เอามาแชร์บ้าง แต่ล่าสุดกลายเป็นมีดรามาซ้อนขึ้นมา หลังจากหุ้นส่วนเจ้าของร้านคอมเมนท์กับเพื่อนในเฟซบุ๊ก ลักษณะเหยียดว่าคนที่ติไม่มีเงินมากิน แต่กดคีย์บอร์ดอยู่กับบ้าน ทำให้วันนี้ทางร้านต้องออกมาแถลงข่าวขอโทษ

เรื่องนี้เริ่มจากมีคลิปเหตุการณ์ภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่ยูทูปเบอร์ชื่อดัง แจ็ก แปปโฮ มีคนติดตามกว่า 3.7 ล้านคน มีคาแรกเตอร์ฮา เกรียน กวน ขึ้นไปยืนบนโต๊ะหรือบาร์สำหรับทานอาหารในร้าน

โดยคลิปถูกเพจผู้บริโภค นำมาแชร์ต่อ จนมีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดความเห็น ว่าไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องมารยาทและความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เชฟใช้พื้นที่บนบาร์ประกอบอาหารด้วย และวัฒนธรรมญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญกับจุดเตรียมอาหารมาก

ต่อมาเพจผู้บริโภคได้แคปแชทสนทนา ที่ระบุว่าเป็นแฟนของแจ็ก ส่งข้อความมาต่อว่าเพจ ว่าแชร์คลิปนี้ทำไมทั้งที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ทำให้แจ็กถูกด่าต่างๆ นานา เหมือนเพจต้องการยอดไลค์และอยากเกาะกระแสจากชื่อเสียงของแจ็ก

ซึ่งเพจผู้บริโภคชี้แจงว่า ทางเพจแชร์คลิปนี้เพราะมองในมุมของผู้บริโภคว่า การไปทานอาหารที่ร้านใดก็ตามย่อมไม่อยากเห็นใครขึ้นไปเหยียบบนโต๊ะอาหาร เพราะเป็นบริเวณที่ควรจะสะอาด ที่ผ่านมาทางเพจก็นำเสนอคอนเทนต์เกี่ยวกับผู้บริโภคมาโดยตลอด ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเกาะแจ็กดัง

ต่อมาแจ็ก ได้ไลฟ์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ตนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงเปิดตัวเพลงใหม่ ของหมอสุนิล ทันตแพทย์ดาวติ๊กต่อก เศรษฐีพันล้าน โดยหมอปิดร้านเลี้ยงมีการเปิดเพลง จากนั้นก็มีการเชียร์ให้ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะ ซึ่งก็มีหลายคนขึ้นไป ไม่ใช่ตนคนเดียว แต่คนที่ถ่ายคลิป ไม่หวังดีตัดให้เหลือแต่ตอนที่ตนขึ้นโต๊ะคนเดียว จนเพจหนึ่งเอามาลง ทำให้มีคนโลกสวยมาคอมเมนต์ด่า ตนขึ้นไปเหยียบบนโต๊ะแต่เสือกไปหนักหัวคนอื่น เวลาตนทำความดีทำไมไม่เอาไปลงบ้าง

ต่อมาเพจร้านได้โพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ทางร้านทำความสะอาดโต๊ะทุกครั้งก่อนและหลังใช้งาน โดยใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค พร้อมกับขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่แล้วก็มีคนไปเห็นว่า ก่อนหน้านี้หนึ่งในหุ้นส่วนร้านโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วันนี้ร้านจองเต็มแล้ว และเขียนต่อในคอมเมนท์ว่า คนที่ติดไม่มีเงินมากินครับ ได้แต่กดคีย์บอร์ดอยู่บ้านครับ ทำให้คนที่เห็นใจร้านในตอนแรกกลับกลายเป็นไม่พอใจ เพราะมองว่าหุ้นส่วนร้านมีทัศนคติที่เหยียดคนอื่น แม้ต่อมาโพสต์นี้จะถูกลบไปแต่ก็มีคนแคปมาแชร์ไปทั่ว

ต่อมาเพจร้านก็โพสต์อีกครั้งว่าทางผู้บริหารร้านขอโทษลูกค้าทุกท่าน ยืนยันว่าตั้งแต่เปิดร้านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเข้าใจดีว่าวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะปีนโต๊ะรับประทานอาหาร ทางบอร์ดบริหารจึงลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ปิดร้านเพื่อเปลี่ยนโต๊ะและบาร์ไม้ในร้านใหม่ทั้งหมดและในอนาคตจะห้ามปรามไม่ให้ลูกค้าทำเช่นนี้อีก

เรื่องราวและยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อมีอดีตแฟนสาวของหุ้นส่วนร้านดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ทวงเงิน 2.4 ล้านบาท โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อเบลล์ มาแสดงความคิดเห็นในกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภคว่า "รวยมากคืนตังค์เราก่อนค่ะ!!" ทวงมาสองปียังไม่ได้คืน อยากได้เงินที่ยืมไป 2.4ล้านบาทคืน

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้สัมภาษณ์ นางสาว อรณัฐ วรนันทวัฒน์ หรือคุณเบลล์ อดีตแฟนหุ้นส่วนร้านอาหารดังกล่าว เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนและนายกฤษ เคยเป็นแฟนกันมาก่อนปัจจุบันได้เลิกรากันไปแล้ว เมื่อสองปีก่อนช่วงที่ยังคบกันอยู่ ได้มีการลงทุนเปิดร้านอาหารในเกาะพะงัน ซึ่งตนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ว่าจะที่ดิน สร้างร้านอาหาร จนกระทั้งการตกแต่งร้าน โดยนายกฤษออกเพียงแรงเท่านั้น

โดยนายกฤษอยากขยายร้านทั้งหมด 3 ร้าน ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารสุกี้ และร้านผับบาร์ ตนเป็นคนใช้เงินตัวเองลงทุนทุกอย่าง ต่อมาช่วงโควิด-19 นายกฤษบอกว่าขาดทุนร้านอาหารของตัวเองในกรุงเทพ ตนจึงออกเงินช่วยเหลือไปทุกอย่าง สุดท้ายได้เลิกรากัน ส่วนเงินที่นายกฤษติดเงินตนไว้ รวมทั้งหมด 2.4 ล้านบาท ที่ตนยังไม่ได้คืน เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนออกมาเรียกร้องสิทธิของตนเอง เพราะเห็นว่านายกฤษเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง เงินเพียง 2.4 ล้านบาท ทวงถามมา 2 ปี แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงขอร้องให้นานกฤษนำเงินมาชดใช้ตน หากไม่ชดใช้ต่อไปคงต้องพึ่งทนายความ

คุณอาจสนใจ