สธ.ชง เวิร์คฟอร์มโฮมหลังปีใหม่ รับมือโอมิครอน ห่วงสัดส่วนติดเชื้อในเด็กสูง

เกาะติดสถานการณ์โควิดโอมิครอน หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยก้าวกระโดดถึง 514 คน และหลังปีใหม่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

จากที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์โควิดโอมิครอนในไทย หลังปีใหม่ หากไม่มีมาตรการคุมเข้ม ยอดผู้ติดเชื้ออาจทะลุ 30,000 รายต่อวัน และผู้เสียชีวิต อาจสูงถึงวันละ 170 -180 คน พร้อม จัดระดับการเตือนภัยโควิดอยู่ในระดับ 3 ให้จำกัดการรวมกลุ่ม หากประชาชนปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดได้ ผู้ติดเชื้อก็จะลดลง อยู่ที่ วันละ 10,000 คน และจะใช้เวลา 2 เดือนควบคุมโรคได้

อีกหนึ่งข้อมูลของผู้ติดเชื้อโอมิครอน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกถึง ผลการติดตามอาการผู้ติดเชื้อใน 100 คนแรก พบว่า 41 คน มีอาการไอมากที่สุด รองลงมา เจ็บคอ และมีไข้ ส่วนอาการได้กลิ่น รับรู้รสยังปกติ ซึ่งสรุปได้ว่า อาการของสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเดลตา ซึ่งการฉีดวัคซีนครบ สามารถช่วยลดความรุนแรงได้

ข้อมูลของสาธารณสุข ยืนยันล่าสุดถึงวันที่ 26 ธันวาคม พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนกระจายไปแล้ว 14 จังหวัดทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อย่างที่ทราบติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ที่หลุดมาจากระบบ Test and Go และ sandbox

อย่างคลัสเตอร์ใหญ่สุด ที่จ.กาฬสินธุ์ ที่ตอนนี้ติดเพิ่มอีก 66 คน รวมติดเชื้อสะสม 151 คน และอยู่ระหว่างตรวจยืนยันอีก 85 คน

ในช่วงนี้จนถึงวันที่ 10 มกราคม ปีหน้า ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในระบบ Test and Go ตกค้างและต้องเดินทางเข้าไทยอีก 90,000 คน (จากที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 2แสนคน) แม้จะปิดลงทะเบียนแล้ว (ตามมติศบค.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ) จึงเท่ากับว่า ต้องเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ไม่ให้หลุดจากระบบ เสี่ยงติดเชื้อเพิ่มภายในประเทศอีก

ก่อนการประชุมครม.วันนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า จะนำเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้จำลองฉากทัศน์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งยอมรับว่ากิจกรรมช่วงปีใหม่ คงหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโอมิครอน ยากขึ้น เนื่องจากมีการรวมตัวกัน

ดังนั้นมาตรการเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไว้ก่อน คือ การเวิร์คฟอร์มโฮมให้มากที่สุด ซึ่งหน่วยงานรัฐได้ทำเป็นตัวอย่างแล้ว และได้ออกประกาศขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนด้วย ทั้งนี้คาดการณ์ว่า หลังปีใหม่จะเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อชัดเจนขึ้น และประเมินสถานการณ์วันที่ 4 ม.ค.65

รัฐมนตรีช่วยฯสาธิต บอกว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ การติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีสัดส่วนการติดเชื้อสูงขึ้น จึงได้เตรียมความพร้อมโรงพยายาลเครือข่าย กทม. หากเกิดอาการหนัก จะส่งต่อให้โรงพยาบาลเอกชนรับไปดูแล