จ่อแจ้ง 2 ข้อหา หมอปลอมสมัครคลินิก 'พิมรี่พาย' คาดอาจสวมรอยทำหลายที่

ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อหา สาวที่แอบอ้างชื่อแพทย์ ไปสมัครงานเป็นหมอที่คลินิกของพิมรี่พาย พร้อมเตรียมเรียกหมอตัวจริงที่ถูกแอบอ้างชื่อ มาให้ปากคำ

จากกรณีที่ นางสาว พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย แม่ค้าและยูทูบเบอร์ชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปคบ. ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวอาลินดา หลังใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ แพทย์หญิงท่านหนึ่ง มาสมัครเป็นแพทย์ของคลินิกอิส คิวท์ คลินิก

โดยพิมพี่ราย บอกว่า ไม่ทราบว่า นางสาวอาลินดา ไม่ใช่แพทย์ตัวจริง เพราะเวลาที่นางสาวอาลินดามาสมัครงาน จะใช้แมสปิดบังใบหน้า แต่งตัวมิดชิด และนางสาวอาลินดา ก็ไม่ใช่พนักงานประจำ แต่จะมาทำงานเป็นครั้งคราว

จนมาทราบความจริง หลังจากแพทย์ตัวจริงคือ นางสาวปิยะนุช รัตนโกเศศ ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ยืนยัน ไม่เคยทำงานที่คลินิกของพิมรี่พาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ แต่โดนคนแอบอ้างชื่อไปสมัครและทำงานที่คลินิกดังกล่าว โดยขณะนี้ตนอยู่ต่างประเทศได้ 7 เดือนแล้ว ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการถูกแอบอ้างชื่อ ไม่ใชตัวฉันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้หลังทราบเรื่อง ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปที่นางสาวอาลินดา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจมาแจ้งความดำเนินคดี และรวบรวมคนไข้ที่รักษากับนางสาวอาลินดา เพื่อรวบรวมข้อมูลให้กับตำรวจ

ซึ่งเชื่อว่านางสาวอาลินดา น่าจะแอบอ้างว่าเป็นแพทย์มานานแล้ว รวมถึงน่าจะหลอกคลินิกที่อื่นด้วย เพราะนางสาวอาลินดา มีการอ้างว่าทำงานที่คลินิกอื่น ๆ อีกหลายคลินิก ยืนยันพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น นอกจากนี้จะทำหนังสือและกราบขอโทษคุณหมอตัวจริงที่ทำให้เสียหาย

พันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการ ตำรวจ ปคบ. เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมของนางสาวอาลินดา พบว่ามีความเสียหายแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ คลินิกที่นางสาวอาลินดาเข้าไปสมัครเข้าไปทำงาน  

ส่วนที่สองคือ แพทย์หญิงคนที่ถูกแอบอ้างใช้ชื่อไปสมัครทำงาน และส่วนที่สามคือคนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและอาจจะได้รับผลกระทบจากการรักษา แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีใครบ้าง

หลังจากนี้จะเรียกแพทย์หญิงคนที่ถูกแอบอ้างชื่อ ให้มาพบกับตำรวจเพื่อให้ข้อมูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นตำรวจ จะขอศาลออกหมายจับหญิงที่แอบอ้างตัวว่าเป็นหมอ ซึ่งขณะนี้เข้าข่ายความผิดใน 2 ข้อหา คือ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น

ส่วนของคนไข้ที่รักษากับหญิงคนดังกล่าว และหากได้รับผลกระทบจากการรักษา หากตกลงกับเจ้าของคลินิกได้ก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินคดีกับคลินิก เพราะในคดีนี้คลินิกก็ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน

ขณะที่นายแพทย์ ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วและอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามของพิมรี่พาย พร้อมระบุว่า คลินิกหรือสถานประกอบการมีหน้าที่ต้องตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงถือว่ามีความผิด

ส่วนหมอที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพก็เป็นหมอเถื่อนมีความผิดอยู่แล้ว ส่วนผู้ใช้บริการ หากพบความผิดปกติหลังใช้บริการแพทย์ปลอม ก็ฟ้องร้องดำเนินคดีได้