สังคม

ครอบครัว 'ไฮโซแบงค์' จี้สน.ทองหล่อ แจงปมเสียชีวิต หลังคดีผ่านไป 80 วัน ไม่คืบหน้า

โดย nicharee_m

23 พ.ย. 2564

185 views

ครอบครัวไฮโซแบงค์ พบตำรวจ สน.ทองหล่อจี้คดีไฮโซแบงค์ เสียชีวิตเชื่อไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตาย เพราะเครียดจากการป่วยเป็นมะเร็ง หลังคดีผ่านไป 80 วันกลับไม่คืบหน้า และยังมีข้อพิรุธในคดีหลายอย่าง


จากกรณี ที่นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ ไฮโซแบงค์ นักธุรกิจด้านธุรกิจความงามชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพักที่ซอยสุขุมวิท 23 เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ในสภาพศพมีบาดแผลถูกปาดที่ลำคอ และที่แขน โดยตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายมีอาการป่วยเป็นมะเร็งและต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวของไฮโซแบงค์ ยังไม่ได้ออกมาให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ และยังสงสัยว่าไฮโซแบงค์ เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเองหรือไม่ เพราะยังไม่เคยได้ข้อมูลถึงผลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ


ล่าสุด นายไตรรัตน์ และนางสาวกิรัติมา ณ พัทลุง ซึ่งเป็น พ่อ และน้องสาวของไฮโซแบงค์ พร้อมทนายความ เข้าพบกับตำรวจ สน.ทองหล่อ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี หลังผ่านไปแล้ว 80 วัน แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า พร้อมนำเอกสารคือ ใบรับรองการตายที่ระบุว่าไฮโซแบงค์ เสียชีวิตจากการสำลักเลือดจากบาดแผลถูกของมีคมบริเวณลำคอ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน


นางสาวกิรัติมา บอกว่า ครอบครัวไม่เชื่อว่า พี่สาวจะฆ่าตัวตาย จึงทำให้ในวันนี้ ต้องการมารับทราบความคืบหน้า เกี่ยวกับผลการชันสูตรพลิกศพ และขอดูหลักฐานในคดีว่ามีอะไรบ้าง ที่ผ่านมา ตำรวจไม่มีการเรียกทางครอบครัวไปให้ปากคำ มีแต่เรียกสามีของพี่สาว และ แม่บ้านไปให้ข้อมูลเท่านั้น


ส่วนที่พี่สาวป่วยเป็นมะเร็งนั้น ยืนยันว่า อยู่ในระหว่างการรักษาและทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี โดยเหลือฉีดคีโม อีกเพียง 3 ครั้งก็จะครบการรักษาแล้ว ซึ่งพี่สาวมีขวัญและกำลังใจดีมาก ไม่เคยบ่นหรือตัดพ้อเรื่องอาการป่วย จึงตัดประเด็นที่จะฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องอาการป่วยออกไปได้


ทั้งนี้ครอบครัวมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเวลาการตายที่ระบุในเอกสารใบมรณะบัตร ที่ลงเวลาไว้ 20.45 นาฬิกา แต่ทางครอบครัวทราบว่าพบศพในห้องน้ำประมาณ 19.30 นาฬิกา จึงเกิดข้อสงสัยเกี่ยวช่วงเวลาที่คลาดเคลื่อน


รวมถึงเรื่องมีดที่ใช้ก่อเหตุ ครั้งแรกระบุว่าเป็นมีดทำครัว แต่ภายหลังมีการระบุว่าใช้คัตเตอร์ ซึ่งทำไมไม่ตรงกัน  ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุ ยังไม่เคยคุยกับสามีพี่สาว แต่ทราบว่า สามีพี่สาวเป็นคนแจ้งว่าพบศพในห้องน้ำ แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุมีใครอยู่ในบ้านบ้าง ยืนยันว่ายังไม่มีการสงสัยบุคคลใดเป็นพิเศษ โดยจะให้ตำรวจสืบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องมรดกของพี่สาว จะยื่นขอต่อศาลแต่งตั้งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก ให้ศาลพิจารณาแบ่งมรดกเป็นสองส่วนคือสินส่วนตัว และสินสมรส


พันตำรวจเอกดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน. ทองหล่อ บอกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบพยานที่เกี่ยวข้องและพยานในที่เกิดเหตุ คือ แม่บ้าน และ สามีผู้เสียชีวิต รวมถึงพยานแวดล้อมอื่นๆ แล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีนี้ได้ เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ


หากครอบครัวผู้เสียชีวิตติดใจสาเหตุการตาย หรือมีพยานหลักฐานใหม่ ก็สามารถนำมาร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือนำมาให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณาได้ ซึ่งตำรวจยินดีที่จะสอบสวนให้ละเอียดขึ้น หากพบว่ามีพยานหลักฐานใหม่ที่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ก็พร้อมจะสอบสวนจนกว่าจะหมดข้อสงสัย เพื่อสรุปสำนวนและสาเหตุการตายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News