ชาวบ้านรอบโรงงานหมิงตี้ วอนเพิ่มสายตรวจดูแลทรัพย์สิน หลังโจรฉวยโอกาสลักเล็ก ขโมยน้อย

ชาวบ้านรอบพื้นที่โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด วอนตำรวจเพิ่มกำลังสายตรวจหลังมีโจรเข้ามาลักเล็กขโมยน้อยในชุมชนโดนไปแล้วหลายหลัง ขณะที่การเยียวยาชาวบ้านบอก รอไม่ได้แล้ว ต้องออกมาช่วยเหลือตัวเอง

สำหรับเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เริ่มปะทุอีกครั้งเมื่อประมาณ 5 โมงเย็นวานนี้ หลังจากสงบมาทั้งวัน ซึ่งจุดที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งที่ 2 อยู่ใกล้กับอาคารที่พักคนงาน ซึ่งจุดนี้มีการเฝ้าระวังมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ทำให้ประชาชนที่เริ่มทยอยกลับเข้ามาในบ้าน ต้องรีบอพยพย้ายออกไปอีกครั้ง ทำให้มีคนร้ายอาศัยจังหวะนี้เข้ามาก่อเหตุลักเล็ก ขโมยน้อย ซ้ำเติมชาวบ้าน

คุณ ชญตร์ มุกดาหาร ลงพื้นที่ชุมชนวัดกิ่งแก้ว หมู่ 13 ตำบลราชาเทวะ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงโรงงานมากที่สุดแห่งหนึ่ง พบว่าชาวบ้านกลับมาสำรวจความเสียหายกันบ้างแล้ว พบว่า มีบ้าน 3-4 หลังที่โดนโจรขึ้นบ้าน อย่างร้านขายของชำร้านนี้ก็ถูกโจรเข้ามาขโมยข้าวสาร อาหารแห้งไป ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า วันเกิดเหตุพอเจ้าหน้าที่บอกให้อพยพก็รีบปิดร้าน เอาผ้าคลุมของในร้านไว้ แต่พอกลับมาดูที่บ้าน ปรากฎว่ามีคนปีนเข้ามาในร้าน และมีขนม ข้าวของในร้านที่หายไป ซึ่งส่วนตัวไม่อยากเอาเรื่องเป็นคดีความ แต่ไม่อยากให้คนร้ายอาศัยช่วงที่กำลังวิกฤตมาฉวยโอกาส

ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุชาวบ้านจัดเวรปั่นจักรยานตรวจตรา เฝ้าระวังขโมยที่อาศัยจังหวะเข้ามาลักทรัพย์ในบ้านเรือน โดยนายเกียรติศักดิ์ สาหร่ายทอง บอกว่า ตอนนี้เท่ามี่ทราบมีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกขโมยของมากถึง 3-4 หลังแล้ว จึงอยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาตรวจตรา

ส่วนเรื่องการเยียวยาหรือความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย นาย ธนากร แก้วสมบูรณ์ หรือ จ่าชาญ เจ้าของร้านหอยทอดที่เสียหาย บอกว่า ไม่อยากรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของภาครัฐ หากมัวแต่นั่งรอการเยียวยาคิดว่าไม่น่าจะทัน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาสำรวจความเสียหาย อย่างมากก็แค่เข้ามาถ่ายรูปแล้วก็ไป

ในเรื่องนี้ พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เรียกประชุมตำรวจเพื่อปรับแผนในการดูแลทรัพย์สินของประชาชนใหม่ โดยจัดกำลังตำรวจเดินเท้าตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงและมีการนำรถตำรวจ เข้าไปตรวจอย่างเข้มข้นทั้งกลางวันกลางคืน รวมถึงติดกล้องวงจรปิดเพิ่มในพื้นที่ และมีกำลังทหารและฝ่ายปกครองช่วยสนับสนุนในพื้นที่ด้วย พร้อมยอมรับว่าแม้ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด แต่ก็อาจมีหลุดรอดไปบ้าง