โผล่อีก! รพ.เก็บรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 7 แสน แถมย้ำไม่จ่ายไม่ให้นำศพออกไปทำพิธี

ผู้โพสต์รายนี้ ระบุ ว่า พ่อมีอาการเหนื่อยเพลีย ยายามติดต่อขอตรวจโควิด ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับตรวจ จนรอคิวตรวจโควิดที่โรงพยาบาลแรก เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา กระทั่งวันรุ่งขึ้น (24 เม.ย.) พ่อหายใจไม่ออก อ่อนเพลีย จึงขอแอดมิตที่โรงพยาบาลนี้เลย แต่เตียงเต็ม จึงวิ่งหาโรงพยาบาลเพื่อรักษาโดยด่วน

สุดท้ายได้เข้าแอดมิตโรงพยาบาลที่ 2 ตอนแรกก็ไม่ได้ บอกเตียงเต็ม แต่ภายหลังคุยกับพนักงานโรงพยาบาล แจ้งว่า มีเตียงแล้ว แต่หากแอดมิตต้องวางมัดจำเงินสดไว้ 1 แสนบาท คุณแม่จึงจำเป็นต้องวางเงินเพื่อให้คุณพ่อได้รับการรักษาด่วน (24 เม.ย.) ซึ่งถูกนำเข้าห้อง ICU ทันที ต่อมาก็มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม โดยจะเรียกเก็บผ่านคุณแม่ ไม่มีข้อมูลค่ารักษาโควิด และห่วงว่า ถ้าไม่ชำระเงินตาม รพ.เรียกเก็บ คุณพ่อจะไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง การชำระรอบบิลแรก เมื่อวันที่ 7 พค. จำนวน 3 แสนบาท และเรียกเก็บอีก รวมยอดชำระแล้ว 5 แสนบาท

ต่อมาวันที่ 9 พค.ช่วงตี 3 พยาบาลแจ้งว่า คุณพ่อเสียชีวิต จากนั้นทาง รพ.ยาบาลเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 190,000 หมื่นบาท ทำนองว่า ถ้าไม่ชำระเงินก็จะไม่ออกใบมรณะบัตร และนำศพออกไปทำพิธีไม่ได้ ทางคุณแม่และญาติจึงโทรประสานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช.จึงออกใบมรณะได้ และขณะนี้ ทาง สปสช.ได้ช่วยไกล่เกลี่ยให้โรงพยาบาล คืนเงินเรียกเก็บจากคุณแม่ให้ด้วย แต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า ทางเราปฏิเสธรักษาโรงพยาบาลแรกเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง

ผู้โพสต์ยังได้โพสต์เป็นอุทธาหรณ์ว่า "การขอตรวจและแอดมิตทำไมถึงยากเย็น ทั้งที่ไม่ได้ขอฟรี นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องยอมรับใช่ไหม วินาทีที่คุณพ่อต้องเข้ารักษาใน รพ.เรียก 1 ล้าน เพื่อให้ได้เตียง เราก็ต้องจ่ายก่อนกันจริงมั้ย ทั้งที่ควรได้รับสิทธิ์ที่ควรได้รับ" โพสต์นี้ก็มีการไปแชร์ต่อ และแสดงความเห็นจำนวนมาก ทั้งให้ รพ.ชี้แจง , แจ้งหน่วยงานรัฐ , ไปขอคืนแล้วให้ รพ.ไปเบิกกับ สปสช.